สำหรับการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV)

 

เราคือ บริษัท อุรา กรุงเทพ คลินิก จำกัดและบริษัทย่อย ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวของคู่สัญญานี้ (ต่อไปนี้เรียกว่า “นโยบายความเป็นส่วนตัว”)  เรายืนยันว่าเราจะรักษาความเป็นส่วนตัวของท่าน และเพื่อให้ท่านทราบว่า เราจะใช้ข้อมูล    ส่วนบุคคลอย่างไร นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะอธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล  ส่วนบุคคลของท่าน นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ จะใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร คู่ค้า ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดที่เข้ามาในพื้นที่สำนักงาน สถานประกอบการ หรือพื้นที่ของเรา (ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะเรียกโดยรวมว่า “ท่าน”) ซึ่งสถานที่ดังกล่าว เราได้มีการเฝ้าสังเกตผ่านการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV) เช่น บริเวณภายในอาคาร ทางเดิน จุดพักคอย ลานจอดรถ และพื้นที่รอบๆ อาคารของเรา

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราจะเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราอาจเก็บรวบรวม จะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของท่าน ไม่ว่าอยู่ในรูปแบบรูปภาพหรือวีดีโอที่ได้รับจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ยกตัวอย่างเช่น ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล ยานพาหนะซึ่งเข้ามาในพื้นที่ซึ่งมการเฝ้าสังเกต ภายในบริเวณอาคาร สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกของบริษัท ฯลฯ 

ในกรณีที่ท่านได้นำบุคคลที่เป็นผู้เยาว์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ท่านจะต้องทำการแจ้งให้ผู้เยาว์รับทราบถึงประกาศ   ความเป็นส่วนตัวฉบับนี้   ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องพัก ห้องน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน

 

  1. ทำไมเราจึงเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากท่าน เมื่อท่านได้เข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัทในกรณีที่เราสามารถประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมเราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ หรือ

   อาจมากกว่าหนึ่งฐานได้แก่

1) ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

2) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก

3) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และเพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อ ดำเนินคดีทางกฎหมาย

 

  1. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ และอาศัยหรืออ้างฐานทางกฎหมาย ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ซึ่งในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมาย  ดังต่อไปนี้

  1. เราอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ใครบ้าง  

เราอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นตามเหตุผลที่ได้กล่าวไว้ในส่วนก่อนหน้า เช่น ศาล หน่วยงานราชการผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือบุคคลภายนอกอื่นใดหากเราเชื่อว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ  รวมถึงบุคคลภายนอกที่เป็นผู้ให้บริการที่เราเป็นผู้ว่าจ้าง (“ผู้ให้บริการ”) (เช่น ผู้ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัย  ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการจัดเก็บข้อมูลบนเซอร์เวอร์ที่เชื่อมต่อออนไลน์) ทั้งนี้ ผู้ให้บริการจะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการเท่านั้นและมีหน้าที่ในการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ในกรณีที่ท่านร้องขอ 

 

  1. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

เราอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย เช่น เมื่อเราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระบบคลาวด์แพลตฟอร์มหรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทยเพื่อการสนับสนุนด้านระบบ IT ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายอาจอยู่ในประเทศอื่นซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล     ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ไม่ได้กำหนดให้เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ

เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครอง

ข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ด้อยกว่าประเทศไทย เราจะดำเนินการให้มั่นใจได้ว่าจะมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือ ให้การโอนนั้นเป็นการโอนที่ได้รับอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ เช่น เราอาจดำเนินการให้ได้คำรับประกันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปว่าข้อมูลนั้นจะได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับที่จำเป็นต้องมีในประเทศไทย

หากท่านต้องการได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับว่าเรามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอน

ข้อมูลดังกล่าวออกนอกประเทศไทยอย่างไร กรุณาติดต่อเราตามที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้

 

  1. เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานแค่ไหน

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการรับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเรา ตามกฎหมายหรือระเบียบใด ๆ เราอาจมี          ความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่นานขึ้นหากมีความจำเป็น และ/หรือ อนุญาตให้กระทำได้ตามกฎหมาย

เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น 

  1. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิตามที่ระบุไว้ในส่วนนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่าน ท่านสามารถขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายและกระบวนการจัดการสิทธิของเรา สิทธิดังกล่าวมีดังต่อไปนี้

  • การขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการเปิดเผยของการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มาโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
  • การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน
  • การให้ลบ ทำลาย หรือ เปลี่ยนให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
  • การขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งได้มีการจัดรูปแบบอย่างเป็นระบบ ใช้งานกันโดยทั่วไป และสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องมือ และส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังองค์กรอื่น
  • การคัดค้าน ระงับหรือจำกัดเราจากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • การถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มาจากการให้ความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้

ท่านสามารถติดต่อเราผ่านทางที่อยู่ในส่วน “ข้อมูลการติดต่อของเรา” ด้านล่างนี้เพื่อใช้สิทธิเหล่านี้ คำขอในการใช้สิทธิเหล่านี้ของท่านอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีที่เราอาจจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุผลและกฎหมายบางประการ เช่น เหตุอันเนื่องมาจากหน้าที่ตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลทั้งนี้เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลของเรา หากเราจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของท่าน

หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานที่มีอำนาจในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อสามารถกระทำได้ อย่างไร ก็ตามเรายินดีเป็นอย่างยิ่งหากมีโอกาสได้จัดการกับความกังวลของท่านก่อนการติดต่อใด ๆ กับหน่วยงานที่มีอำนาจนั้น ดังนั้นเราจะยินดีอย่างยิ่งหากท่านกรุณาติดต่อเราก่อนเป็นอันดับแรก

  1.   ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถที่ผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขาให้ความยินยอมไว้เท่านั้น เราไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ (เช่น ลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี) คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของพวกเขา ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของบุคคลดังกล่าวในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เราไม่มีเจตนาดังกล่าว เมื่อเราได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวเราจะลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถออกในเวลาที่เหมาะสมหรือจะประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเฉพาะที่เราสามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้

การที่ท่านใช้บริการของเรา ท่านรับรองและรับประกันว่า ท่านมีความสามารถตามที่กฎหมายกำหนดสําหรับการใช้บริการของเรา หากท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านกําลังใช้บริการโดยได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลแล้ว เราอาจกําหนดข้อจํากัดในการใช้บริการบางอย่างในกรณีที่เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าท่านมีอายุครบตามที่กําหนด

หากท่านเชื่อว่าเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากมีอำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล โปรดแจ้งให้เราทราบผ่านแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากเราได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากความยินยอมทางกฎหมายโดยไม่ได้มีเจตนา เราจะระงับการใช้งานบัญชีที่เกี่ยวข้องและจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อหยุดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และ/หรือ ลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวออกจากบันทึกของเราทันที

 

  1. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบของเอกสาร และ/หรือ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยจัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Access Control) รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่างๆ ตามสมควร เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ หรือกระทำโดยปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจใน     การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อการละเมิดการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality)    ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทมีการจำกัด      การเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดการอนุญาตหรือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล มีการบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน (User Access Management) เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (User Responsibilities) เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล และเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่ดำเนินการประมวลผลหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดำเนินการกำกับดูแลให้บุคคลนั้นดำเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามคำสั่งของบริษัท

  • 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายอื่น

เราไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของผู้ให้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม หรือบริการใดๆที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการรายอื่นซึ่งเชื่อมต่อมายังแพลตฟอร์มของเรา ท่านควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการในแพลตฟอร์มนั้นๆ ทั้งนี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้มีผลใช้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลโดยเราเท่านั้น

  1. การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • ขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ให้เป็นปัจจุบันในเวลาที่เหมาะสม  เมื่อแนวทางปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลต่างๆ  เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ฯลฯ   
  • www.aurabangkokclinic.com/Privacy-policy
  1. ข้อมูลการติดต่อของเรา

หากท่านมีคำถามเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของเราที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อเราตามรายละเอียดด้านล่างนี้ เรายินดีที่จะช่วยเหลือหากท่านต้องการขอข้อมูล เสนอแนะ หรือร้องเรียนใด ๆ

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

ที่อยู่:   เลขที่ 100/14 ชั้น 11 สาธรนครทาวเวอร์ ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

ช่องทางการติดต่อ:      โทรศัพท์ : 02 024 2222 ทุกวันและเวลาทำการ 

(วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.30 – 18.30 น.)

อีเมล: legal@aurabangkokclinic.com

ทั้งนี้ ให้มีผลนับแต่วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

บริษัท อุรา กรุงเทพ คลินิก จำกัด