Sculptra คือ Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้สูงถึง 66% ช่วยแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุ เสริมความแข็งแรงให้ผิวจากภายในสู่ภายนอก ฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย โทรม ไม่กระชับ ให้กลับมาอิ่มฟู แน่นกระชับ ลดริ้วรอย กระตุ้นผิวเด็ก ล็อคผิวใส คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวนานถึง 2 ปี
Sculptra สามารถแก้ปัญหาเล็กๆ เช่นริ้วรอย ผิวหมอง ผิวแห้งขาดน้ำ ไปจนถึงปัญหาใหญ่ๆ เช่น หน้าหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยว ร่องแก้ม ขมับตอบ แก้มตอบ โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ฯ Sculptra ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ต้องฉีดกี่ครั้ง? ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง? Sculptra อยู่ได้นานแค่ไหน? อ่านทุกเรื่องของ Sculptra ได้ในบทความนี้
Sculptra คืออะไร
Sculptra คือสารสกัดบำรุงผิวที่มีส่วนประกอบหลักเป็นสารสกัดจาก Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มฟู เพิ่มความยืดหยุ่นและความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เติมเต็มร่องลึก ฟื้นฟูโครงสร้างของผิวชั้นลึก แก้ปัญหาความหย่อยคล้อย ให้ผิวกลับมาแข็งแรงและเรียบเนียนเหมือนผิวเด็กได้อีกครั้ง
Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้มากถึง 66.5% ซึ่งช่วยซ่อมแซมโครงสร้างผิวที่ทรุด หรือสูญเสียความยืดหยุ่นไปตามอายุ ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยดูยกกระชับ ผิวที่เสื่อมโทรมดูแน่นฟู เต่งตึง หน้าดูเด็กขึ้นทันที
Sculptra ทำงานยังไง
Sculptra ที่ผสมกับน้ำ (Sterlile Water) ถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิว Subcutaneous ในช่วงแรกจุดที่ฉีดจะอิ่มฟู ดูเต็มขึ้น หน้ายกกระชับ 20% จากโมเลกุลของน้ำ เมื่อเวลาผ่านไปน้ำจะถูกดูดซึมจนหมด คงเหลือแต่ผลึกของ PLLA
ในช่วง 2-3 เดือนเป็นช่วงที่ PLLA จะส่งสัญญาณให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) หลายๆ เซลล์มารวมตัวกันแล้วสร้างสารสำคัญในผิว งานวิจัยระบุว่า ปริมาณเซลล์ผิวใหม่เพิ่มขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติมากถึง 66.5% วอลลุ่มผิวจึงเพิ่มขึ้น ผิวดูแน่นฟู ตึงกระชับ หลังผ่านไประยะหนึ่ง Sculptra จะค่อยๆ สลายจนหมด แต่ผิวจะแข็งแรงเหมือนเดิม ผิวจึงยกกระชับและอิ่มฟูได้นาน 2 ปี เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
*Goldberg D, et al. Dermatol Surg. 2013;39(6):915-922.
Sculptra ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- แก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น ให้อิ่มฟู แน่น เต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ยกกระชับผิว ยกหน้าให้เรียวขึ้น ลดกระเปาะแก้ม
- ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกด้วยการฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก
- แก้ปัญหาผิวหมอง ผิวหน้าอ่อนล้าขาดความชุ่มชื่น ให้ผิวชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง กระจ่างใส
- กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน
รีวิว sculptra
ฉีด Sculptar จุดไหนได้บ้าง
- ฉีด Sculptra ยกกระชับหน้า
หน้าเป็นจุดที่นิยมฉีดมากที่สุด เพราะช่วยให้หน้าเรียวยก ผิวหน้าอิ่มฟู ดูเด็ก ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ยิ่งฉีดด้วยเทคนิค Triple Lift จะยิ่งช่วยยกกระชับ เก็บกระเปาะแก้มให้หน้าเรียวเล็กได้ดี ช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ และเติมริ้วรอยลึกให้ตื้นขึ้น เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวหน้าอย่างเป็นธรรมชาติทันทีหลังฉีด 20% และช่วยให้หน้ายกกระชับได้นานถึง 2 ปี - ฉีด Sculptra แก้ปัญหาคอเหี่ยว
การฉีด Sculptra ที่คอ จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวรอบคอที่เหี่ยวให้แน่น กระชับ เต่งตึง - ฉีด Sculptra หลังมือ
Sculptra สามารถแก้ปัญหาผิวหลังมือที่เหี่ยวย่น ผิวมีรอยยับย่นให้เรียบเนียนขึ้นได้ เพราะ Sculptra จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิว ผิวที่เหี่ยวย่นจะฟูขึ้น เรียบเนียนขึ้น - ฉีด Sculptra สะโพก
Sculptra สามารถใช้ฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวบริเวณสะโพก แก้ปัญหาสะโพกบุ๋ม สะโพกไม่เท่ากันได้ ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ ดูแน่นขึ้น อิ่มฟูขึ้น
ฉีด sculptra อันตรายไหม
Sculptra เป็นสารบำรุงชั้นผิวตัวแรกของโลกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา ยุโรปและหลายอีกหลายประเทศทั่วโลก ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเป็นเวลานานกว่า 25 ปี ผ่านการวิจัย พัฒนาและทดสอบโดย Galderma Laboratories, L.P. มีงานวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำมากถึง 50 งานวิจัย
Sculptra มีคุณสมบัติที่สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกาย จึงถูกนำมาใช้ผลิตไหมละลายและแผ่นเพลทยึดกระดูกที่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อฉีด Sculptra ไปแล้ว จะไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เมื่อฉีด Sculptra แท้ กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการเทรนจาก Galderma และฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน
Sculptra ต่างจาก Filler ยังไง
Sculptra ต่างจาก Rejuran ยังไง
หลายคนมีความเข้าใจว่า Sculptra ช่วยให้ผิวดูเด็ก ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส คล้ายกับรีจูรัน จริงๆ แล้ว Sculptra ไม่เหมือนกับ Rejuran
- Rejuran เป็นสารประเภท Polynucleotide (PN) สกัดจากสารพันธุกรรมของปลาแซลมอน ช่วยกระตุ้นการแบ่งเซลล์ของ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่มากขึ้น เน้นในเรื่องการเพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ฟื้นฟูเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่ในจุดที่เคยเป็นสิว และเหมาะกับคนที่ต้องการผิวหน้ากระจ่างใส หน้าฉ่ำวาว
- Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามกระบวนการธรรมชาติ สกัดจากพืชธรรมชาติ เพื่อให้โครงสร้างผิวมีความแข็งแรงจากภายใน ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มฟูดูเป็นธรรมชาติ เน้นแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยว
Sculptra ต่างจาก Radiesse ยังไง
- Radiesse เป็นสารกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายในผิว เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวโดยเฉพาะ มีส่วนประกอบของ Calcium hydroxylapatite (CaHA) ที่ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น เติมวอลลุ่มให้ผิวได้ทันทีหลังฉีด เน้นแก้ไขวอลลุ่มผิวที่หายไป เช่นแก้มตอบ ขมับตอบ เห็นผลชัดเจนภายใน 1 เดือนและคงอยู่ได้นาน 1 ปี ไม่เหมาะกับคนผิวบาง
- Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามกระบวนการธรรมชาติ มีส่วนประกอบของสารสกัดจาก Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) เพื่อให้โครงสร้างผิวมีความแข็งแรงจากภายใน ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มฟูดูเป็นธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับคนทุกวัย ทุกสภาพผิว โดยจะเริ่มเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน และคงอยู่ได้นาน 2 ปี เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
Sculptra ต่างจาก Gouri ยังไง
ทั้ง Gouri และ Sculptra เป็น Collagen Stimulator เหมือนกัน แต่มีส่วนประกอบและแก้ปัญหาต่างกัน คือ
- Gouri เป็นสารกระตุ้นชั้นผิว มีส่วนประกอบของสารสกัด Polycaprolactone (PCL) ที่อยู่ในรูปของสารละลาย สามารถฉีดได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำเกลือหรือตัวทำละลายอื่นๆ Gouri จะเห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ โดยต้องฉีดอย่างน้อย 3 ครั้ง ทุกๆ 1 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามธรรมชาติ มีส่วนประกอบของสารสกัดจาก Poly-L-Lactic (PLLA -SCA) Sculptra มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว ต้องผสมกับน้ำ (Sterlile Water) และใช้เครื่องเฉพาะเขย่ายาให้ละลายก่อนฉีด ถึง Sculptra เห็นผลหลังทำทันที 20% และเมื่อฉีดต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมินจะคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
Sculptra กับ ULTRACOL เหมือนกันไหม
ULTRACOL คือไหมน้ำ ผลิตจากไหมชนิด PDO (Polydioxanone) ไหมน้ำ 1 ขวดเทียบเท่าการร้อยไหมแบบเดิม 1200 เส้น จึงนิยมใช้สำหรับลดริ้วรอย เติมเต็มผิว ยกกระชับ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว โดยต้องฉีดอย่างน้อย 3 ครั้ง ทุกๆ 2-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน เหมาะกับผิวบางบริเวณ เช่นใต้ตาและร่องแก้ม
ถ้าเทียบ ULTRACOL กับ Sculptra ถือว่า Sculptra ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก แก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทั่วใบหน้าได้ดีที่สุด ฉีดได้หลายจุด ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา
Sculptra ต่างกับ Thermage Ulthera Ultraformer III ยังไง
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
- ประเมินผิวหน้ากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินจำนวนครั้งที่ฉีดแล้วเห็นผลชัดเจนมากที่สุด
- ทำความสะอาดผิว และทายาชาบริเวณที่จะฉีด
- แพทย์ฉีด Sculptra ลงไปใต้ชั้นผิว ชั้นหนังแท้ตามแนวยกกระชับ ด้วยเข็มทู่
- แพทย์จะนวดผิวบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัว
ฉีด sculptra ครั้งละกี่ cc
อ้างอิงจากงานวิจัย และคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรม Skin Sculpting Solution จะให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด ควรฉีดครั้งละ 1 ขวด หรือ 10 cc และฉีดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมิน ซึ่งแพทย์จะประเมินจากสภาพผิวและอายุของผู้ฉีด โดยทั่วไปจะคำนวณจากช่วงอายุ ทุกๆ 10 ปี ต่อปริมาณ Sculptra 10 cc
- อายุ 30 ปี ควรฉีด Sculptra 30 cc หรือฉีดอย่างต่อเนื่อง 3 ขวด / 1 โปรแกรม
- อายุ 50 ปี ควรฉีด Sculptra 50 cc หรือฉีดอย่างต่อเนื่อง 5 ขวด / 1 โปรแกรม
ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ผิวยิ่งสูญเสียความยืดหยุ่นและความแข็งแรงขึ้น ร่างกายจะผลิตเซลล์ผิวใหม่เพื่อทดแทนของเก่าที่สลายไปได้ยาก จึงต้องใช้ Sculptra เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังที่เสื่อมสภาพตามวัยนั่นเอง
ฉีดsculptra เห็นผลทันทีไหม กี่เดือนเห็นผล ต้องฉีดกี่ครั้ง
หลังฉีด Sculptra จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที 20% เห็นผลเต็มที่ภายใน 3 เดือน คงอยู่ได้นาน 25 เดือน เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมิน สำหรับคนที่ผิวเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย ผิวโทรมมาก แนะนำให้ฉีดทุกเดือน ติดต่อกัน 3-4 เดือน
ฉีดsculptra อยู่ได้นานไหม
เมื่อทำโปรแกรม Skin Sculpting Solution ครบตามที่แพทย์แนะนำ ผิวจะแน่น อิ่มฟู หน้ายกกระชับ หน้าเด็ก นาน 25 เดือน แนะนำให้ฉีดตามที่หมอประเมิน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่า
Sculptra ฉีดครั้งเดียวจะเห็นผลไหม? การฉีด Sculptra 1 ขวดเห็นผลไหม? จริงๆ แล้ว เห็นผลดีเช่นกัน แต่คงอยู่ได้เพียง 2-4 เดือน ซึ่งจะไม่ใช่ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการฉีดตามที่แพทย์๋แนะนำ
sculptra ราคาเท่าไหร่
ก่อนฉีด sculptra เตรียมตัวยังไง
การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- เลือกคลินิกที่ใช้ Sculptra แท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง จากบริษัทที่นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยตรง
- ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ sculptra แท้ ผ่านแอปลิเคชัน EZtracker คลิกเพื่อดู How to ใช้แอปง่ายๆ
- เลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง ต้องเป็นหมอที่มีตัวตนจริง มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
- แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม
- ประวัติการแพ้ยา, ยาที่กินเป็นประจำ, โรคประจำตัว และภาวะการตั้งครรภ์และให้นมบุตร กับคุณหมอก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- 2 สัปดาห์ก่อนฉีด หลีกเลี่ยงการทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เช่นวิตามินซี เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
การดูแลหลังฉีด
- ควรประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการฉีดในช่วง 24 ชม. แรกเพื่อลดอาการบวม
- นวดหน้าตามหลัก Triple 5 ต่อเนื่อง 5 วัน วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายทั่วใบหน้า
- 24 ชั่วโมงหลังฉีด งดแต่งหน้า งดทาครีมบำรุง งดอบซาวน่าและอบไอน้ำ งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน ยิงเลเซอร์ Ultraformer III, Thermage, Uthera
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดหรือแสงยูวีจนกว่าอาการบวมแดงจะหายไป
- งดแกะ เกา บีบและสัมผัสรอยเข็ม ถ้าเป็นคนบวมช้ำง่าย สามารถกินยาลดรอยช้ำได้
- ถ้าต้องการทำหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์ แฟต วิตามินหน้าใส ควรเว้นระยะห่าง 7-14 วัน (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
วิธีนวดหน้าหลังฉีด
การนวดหน้าหลังฉีด Sculptra ช่วยให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวและกระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น การนวดหน้ามีขั้นตอนง่ายๆ คือ
- ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดบริเวณขมับทั้งสองข้าง และใช้กำปั้นค่อยๆ นวด เลื่อนจากบริเวณขมับด้านบนไปทางขมับด้านข้าง
- ยกนิ้วหัวแม่มือ แนบบริเวณแก้มทั้งสองข้าง แล้วค่อยๆ เลื่อนจากหน้าแก้มออกไปข้างแก้ม โดยกดแล้วค่อยๆ เลื่อนออกอย่างช้าๆ
- ใช้อุ้งมือกดช่วงข้างแก้ม แล้วค่อยๆ นวดไล่จากด้านล่างขึ้นด้านบนจนถึงโหนกแก้ม ทำซ้ำไปมาหลายๆ ครั้ง เพื่อช่วยยกกระชับหน้า
- ทำมือลักษณะเดียวกับขั้นตอนที่ 2 บริเวณคาง แล้วค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปตามแนวกราม
ข้อควรระวังการฉีด sculptra
- Sculptra ต้องฉีดกับแพทย์ที่ผ่านการเทรนกับ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น เพราะเป็นหัตถการที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการฉีด
- ก่อนฉีด ควรประเมินสภาพผิวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ควรฉีด Sculptra กับคลินิกที่ใช้ยาแท้ นำเข้าโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น ค้นหาคลินิกที่ผ่านการรับรอง คลิกที่นี่
- เลือกคลินิกที่ใช้เข็มทู่ (Blunt Cannula) ในการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงเข็มบาดเส้นเลือด
- หลังฉีด Sculptra จะมีอาการบวมแดง ช้ำ เจ็บบริเวณที่ฉีดซึ่งไม่อันตราย และหายได้เองภายใน 2-3 วัน คนที่ช้ำบวมง่าย อาการจะหายภายใน 7-14 วัน
Q&A เกี่ยวกับ Sculptra
Q: sculptra ฉีดวันเดียวกับฟิลเลอร์ได้ไหม
A: สามารถฉีดวันเดียวกันได้เฉพาะ ฟิลเลอร์ปากและร่องแก้มเท่านั้น ฟิลเลอร์บริเวณอื่นไม่แนะนำให้ฉีดในวันเดียวกัน เพราะหลังฉีด Sculptra ต้องนวดทั่วใบหน้าติดต่อกัน 5 วัน การนวดหรือกดแรงๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ แล้วเว้นช่วงอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนฉีด Sculptra หรือ ฉีด Sculptra แล้วเว้นช่วงอย่างน้อย 1 เดือนก่อนฉีดฟิลเลอร์
Q: อายุเท่าไหร่ทำ Skin Sculpting Solutionได้?
A: ความเป็นจริงแล้ว Sculptra สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้หน้าเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อยหรือผิวโทรมก่อน ยิ่งฉีดได้เร็วแค่ไหน จะยิ่งช่วยคงความอ่อนเยาว์ของผิวได้ดี ผิวหน้าจะยิ่งแน่นกระชับ และหน้าเด็กกว่าคนวัยเดียวกัน
คนที่อายุเยอะแล้ว ผิวเหี่ยวย่นไปแล้ว แพทย์แนะนำให้ฉีด Sculptra อย่างมาก เพราะสามารถฟื้นฟูผิวที่เหี่ยวให้เต่งตึงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับเสริมความแข็งแรงให้กับผิวจากภายในสู่ภายนอก กระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มฟู ยกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ
Q: Sculptra กี่เดือนกลับมาฉีดซ้ำได้
A: สามารถฉีดทุก 1 เดือน ต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้จะชัดเจน และช่วยให้หน้ายกกระชับ ผิวแน่นฟู ผิวดูเปล่งปลั่งนาน 25 เดือน
Q: Sculptra แท้ ดูยังไง
A: ก่อนฉีด Sculptra ควรตรวจสอบตัวยาให้มั่นใจว่าใช้ยาแท้ วิธีการเช็ก Sculptra แท้ ง่ายๆ 5 ขั้นตอน
- กล่อง Sculptra อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สติ๊กเกอร์โมโนแกรมสีกรีนคำว่า “GALDERMA” ยังไม่ถูกดึงหรือลอกออก
- รอบกล่อง Sculptra สกรีนลายน้ำ “S” นูนขึ้นจากผิวกล่อง
- ข้างกล่อง Sculptra มีเลขทะเบียนอย. นำเข้าโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และมีเอกสารกำกับยาภาษาไทย
- มีเลข Lot ที่ผลิต และระบุวันหมดอายุชัดเจน แสกน QR Code ด้วยแอพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบเลขล็อตและข้อมูลของ Sculptra ได้ ดูคลิปสอนใช้งานแอป คลิก!
- บนขวด Sculptra มีเลข Lot ตรงกับเลข Lot ข้างกล่อง ตัวยาในขวดเป็นผงผลึกสีขาว (PLLA Powder) ไม่มีนำผสม
Q: Skin Sculpting Solution ลดริ้วรอยได้จริงไหม
A: ในช่วงแรกจุดที่ฉีดจะอิ่มฟู ดูเต็มขึ้น หลัง 2-3 สัปดาห์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน 20% เมื่อครบ 3 เดือน ผิวหน้าจะฟูขึ้นเต็มที่ หน้ายกกระชับทำให้ร่องแก้มถูกยกขึ้น ริ้วรอยตื้นๆ เรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลึกดูตื้นขึ้น ถ้าฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไป จะยิ่งช่วยยกกระชับผิวได้ดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีริ้วรอยเยอะหรือมีร่องลึกชัดเจน ผิวมีรอยยับ ผิวเป็นคลื่น อยากให้ริ้วรอยตื้นขึ้นสามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมร่องลึกควบคู่กันได้
Q: Sculptra เจ็บไหม บวมไหม
A: ที่ Aura Bangkok Clinic ก่อนฉีด Sculptra จะมีการแปะยาชาบริเวณที่ฉีดก่อนทุกเคส
ขั้นตอนการเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูปของเหลว Active Form พร้อมฉีด ตามข้อกำหนดของ GALDERMA จะต้องผสม Sterlile Water และยาชาเสมอ ทำให้ระหว่างฉีดจะรู้สึกตึงๆ หรือหน่วงในระดับที่ทนได้
หลังฉีดจะมีอาการบวมเล็กน้อย และอาการบวมจะหายภายใน 5-7 วัน ถ้าเป็นคนบวมช้ำง่าย อาการบวมจะหายภายใน 7-14 วัน สามารถกินยาลดอาการบวมได้
Q: sculptra ต้องผสมน้ำก่อนฉีด จริงไหม
A: จริง เพราะ Sculptra แท้ จะมีลักษณะตัวยาเป็นผงผลึก ขั้นตอนการเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูปของเหลว Active Form พร้อมฉีด ตามข้อกำหนดของ GALDERMA จะต้องผสม Sterlile Water (น้ำกลั่นปราศจากเชื้อ) และยาชาเสมอ และใช้เครื่องผสมโดยเฉพาะ ไม่มีการนำผงผลึกออกมาผสมกับน้ำนอกขวด หรือผสมสารละลายอื่นๆ
Q: Sculptra กับ Belotero Revive ต่างกันยังไง
A:
- Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มที่สุดของยี่ห้อ Belotero มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Glycerol ใช้ฉีดเพื่อให้ผิวเรียบเนียน อิ่มน้ำ ดูฉ่ำวาว ผิวเล่นแสงหรือที่เรียกว่าผิวกระจก ช่วยคงความชุ่มชื่นให้ผิวนาน 7-9 เดือน
- Sculptra อาจไม่ได้ช่วยให้ผิวเล่นแสงเหมือนกับ Belotero Revive แต่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก ช่วยยกระชับผิว ช่วยให้ผิวแน่นดูอิ่มฟู ลดริ้วรอยให้หน้าดูเด็กลง เสริมความแข็งแรงให้กับผิวได้นานถึง 25 เดือน