oligio เครื่องกระตุ้นการสลายไขมันใต้ผิวหนังที่ใช้พลังงานวิทยุ RF ความถี่ต่ำ นวัตกรรมล่าสุดจากเกาหลี ช่วยกระตุ้นการสลายไขมัน ลดแก้ม ลดเหนียง ช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น ช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรม นวัตกรรมใหม่ล่าสุดใน oligio แม่นยำกว่าเครื่องยกกระชับพลังงาน RF รุ่นเก่า เจ็บน้อยกว่า โอกาสผิวช้ำ ผิวเบิร์นน้อยกว่า ลดเวลาในการทำหัตถการได้มากกว่าเครื่อง RF รุ่นเก่า 20%
รู้จัก Oligio เครื่องยกกระชับสลายไขมันเจนใหม่ ให้มากขึ้น ตอบคำถาม Oligio ทำบริเวณไหนได้บ้าง? อันตรายไหม? เหมาะกับใคร? Oligio มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ติดตามทั้งหมดได้ในบทความนี้
Oligio คืออะไร
Oligio คือเครื่องยกกระชับ สลายไขมันเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดเรียงโครงสร้างผิว ช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียนขึ้น ช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวทำให้หน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องฉีด
Oligio ดียังไง
- เครื่อง Oligio เป็นเครื่องยกกระชับที่ช่วยแก้ 2 ปัญหาผิว คือปัญหาหย่อนคล้อย มีไขมันสะสม ได้ในเครื่องเดียว ช่วยให้หน้าเรียวกระชับ ผิวยืดหยุ่นขึ้นโดยไม่ต้องฉีด
- เครื่อง Oligio นวัตกรรมใหม่จากเกาหลี ผ่านการรับรอง FDA จากไทย อเมริกา ยุโรป เกาหลี
- เครื่อง Oligio ใช้คลื่น 6.78 MHz เป็นช่วงความถี่ต่ำและคงที่ ทำให้เกิดความร้อนใต้ชั้นผิวประมาณ 40-60 c เป็นความร้อนที่เหมาะกับการกระตุ้นและยกกระชับผิว
- Oligio เป็นเครื่องยกกระชับเจนใหม่ที่มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ ถ้าอุณหภูมิสูงเกินกำหนดเครื่องจะหยุดอัตโนมัติ ผิวจึงไม่เบิร์น ไม่แสบร้อนขณะทำ
- นอกจากเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ เครื่องยกกระชับ Oligio ยังมีระบบปล่อยความเย็น Cooling System ปล่อยความเย็นให้ผิวชั้นนอกสุด ช่วยลดความรู้สึกแสบร้อนสะสม
- หัวยิงพลังงาน 2 ขนาด Face tip เหมาะกับผิวทั่วใบหน้า และ Eye tip สำหรับผิวบริเวณรอบดวงตา หัวยิงของ oligio ขนาดใหญ่ขึ้น ยิงได้ทั่วถึง ใช้เวลาน้อยลง
- เครื่องยกกระชับบางรุ่น ถ้าเปิดใช้หัว Tip แล้วจะต้องใช้ยิงให้หมดภายใน 1 ชม. ซึ่งปริมาณช็อตอาจจะมากเกินไป แต่ Oligio ใช้หัวยิงเจนใหม่ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและจำนวนช็อต สามารถแบ่งทำได้
เปรียบเทียบ Oligio กับ thermage ต่างกันยังไง
- Oligio เครื่องยกกระชับ สลายไขมันเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดเรียงโครงสร้างผิว ช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียนขึ้น ช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวทำให้หน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องฉีด
- thermage เป็นเครื่องยกกระชับรุ่นแรก ใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF เหมือนกับ oligio ยิงคลื่นพลังงานขนาดใหญ่ลงไปที่ชั้นผิว เพื่อให้ผิวกระชับ สลายไขมันสะสม ฟื้นฟูผิวชั้นบนสุดเพื่อลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน
เทอร์มาจกับ oligio ใช้พลังงานเดียวกัน แต่หัวยิงเครื่องเธอร์มาจ เมื่อเปิดใช้จะต้องยิงให้หมดภายใน 1 ชม. และเทอร์มาจไม่มีระบบตรวจจับอุณหภูมิ และจะปล่อยพลังงานความร้อนออกมาที่ผิวอย่างเดียว ต่างจาก oligio ที่มีระบบปล่อยพลังงานความร้อนและลมเย็น
Oligio กับ Ultera
- Oligio ใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ในการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังชั้นลึก จนถึงชั้น Dermis ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดเรียงอีลาสติน ช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวอิ่มฟู หน้าดูเด็ก ช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวได้ดี กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียนขึ้น
- Ulthera ใช้พลังงานจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ High Intensity Focus Ultrasound (พลังงานเดียวกันกับเครื่อง Ultraformer III) ยิงพลังงานลงผิวชั้นผิว SMAS และชั้นกล้ามเนื้อ ช่วยแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอยจางๆ อัลเทอร่าเป็นเครื่องยกกระชับความแม่นยำสูง
Oligio กับ อัลเทอรา ทั้งสองเครื่องใช้พลังงานต่างกัน ระดับความร้อนที่ยิงลงบนผิว Oligio จะปลอดภัยกับผิวมากกว่า เพราะเกิดความร้อนที่ผิวแค่ 40-60 c แต่ Ulthera ทำให้เกิดความร้อนที่ผิวสูงถึง 60-70 c และพลังงานที่ยิงจะกระตุ้นชั้นผิวคนละชั้น การยกกระชับจึงแตกต่างกัน และ Oligio ยังกระตุ้นการสลายไขมันได้ด้วย
Oligio กับ Volnewmer
Oligio และ Volnewmer เป็นเครื่องยกกระชับ ใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF เหมือนกัน oligio ทั้งสองเครื่องช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดเรียงโครงสร้างผิว ช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย กระชับรูขุมขนได้ดีเท่ากัน แต่ Oligio มีระบบ Cooling System ที่ดีและเสถียรกว่า ส่วน Volnewmer มีหัว Tip หลายขนาดที่เหมาะกับผิวแต่ละบริเวณ ทำให้ Volnewmer มีราคาสูงกว่า Oligio
Oligio กับ Ultraformer III
- Oligio ใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ในการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังชั้นลึก จนถึงชั้น Dermis ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและจัดเรียงอีลาสติน ช่วยยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวอิ่มฟู หน้าดูเด็ก ช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวได้ดี กระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียนขึ้น
- Ultraformer III ใช้พลังงานจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ (High Intensity Focus Ultrasound) ยิงพลังงานลงผิวชั้นผิว SMAS ช่วยยกกระชับผิวได้ดี ช่วยให้หน้าดูเรียวยก แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ลดกระเปาะแก้ม
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนของ Oligio และ Ultraformer III คือ Oligio ช่วยยกกระชับผิวและสลายไขมันได้ดีกว่า เหมาะกับการสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม เหนียง และผลลัพธ์ของ Oligio ยังอยูได้นานมากกว่า เพราะยกกระชับผิวชั้นลึกได้แม่นยำ
Oligio กับ HIFU
Oligio กับ HIFU เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่แตกต่างกันอย่างมาก
Oligio เป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ปรับปรุงจาก Pain point ของเครื่องยกกระชับหลายๆ รุ่น มีระบบตรวจจับอัณหภูมิ ระบบปล่อยความเย็น หัว Tip ที่ออกแบบมาให้เข้ากับผิวบริเวณต่างๆ ใช้เวลาทำน้อยลงกว่าเดิม สบายผิวมากขึ้น ส่วน HIFU เป็นเครื่องยกกระชับรุ่นเก่าที่เน้นการยกกระชับ ใช้พลังงานที่ไม่เสถียร ความร้อนที่สูงเกินไปทำให้ผิวแสบร้อน ระบม HIFU จึงเป็นเครื่องที่ไม่ได้รับความนิยมแล้วในปัจจุบัน
สรุป เครื่องยกกระชับ Non-Invasive Lifting แต่ละเครื่องต่างกันยังไง
Oligio เหมาะกับผิวแบบไหน ใครควรทำ Oligio
Oligio เหมาะกับทุกสภาพผิว ทุกเพศทุกวัย คนที่กลัวเข็ม หรือยังไม่อยากฉีดสามารถทำเครื่อง oligio ได้
- อยากหน้าเรียว วีเชฟ แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม หรือคนที่มีเวลาพักฟื้นน้อย
- อยากกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว แต่ไม่อยากฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน
- ผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น (Sagging Skin) โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง
- ผิวแก่ ขาดคอลลาเจน
- มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียง คอ
- มีริ้วรอยรอบดวงตา มีถุงใต้ตา หางตาตก
ข้อดีของเครื่อง oligio
- ช่วยให้หน้าเรียว วีเชฟ โครงหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้หน้าหรือแต่งหน้าต่อได้
- เป็นการยกกระชับผิวด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ปลอดภัย ไม่เบิร์นผิว ไม่แสบร้อนผิว ไม่มีแผลหลังทำ
- ใช้เวลาทำน้อย ไม่ต้องเผื่อเวลานานเหมือนกับเครื่องยกกระชับรุ่นเก่า
- เห็นผลหลังทำทันที 20-30% หน้าดูยก ผิวกระชับ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- ช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้ดี เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาฉีดแฟต และยังทำคู่กับแฟต ฟิลเลอร์ โบท็อกและหัตถการอื่นๆ ได้
- ยิ่งทำตามจำนวนช็อตและทำซ้ำเพื่อกระตุ้นผิวตามที่แพทย์แนะนำ จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง ผิวกระชับ ดูเด็ก
- ขั้นตอนการดูแลก่อนทำ-หลังทำ ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องงดทานอาหารหรือยาที่ทานประจำ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เครื่องยกกระชับทั่วไป จะต้องทายาชาก่อนทำ ซึ่งยาชาอาจทำให้ผิวแห้ง แต่ Oligio สามารถทำได้เลยไม่จำเป็นต้องทายาชา หลังทำจึงไม่มีอาการผิวแห้งหรือระคายเคืองจากการทายาชา
ข้อจำกัดของ Oligio
- ต้องรอผลลัพธ์เริ่มเห็นผลเต็มที่ ประมาณ 2-3 เดือน
- คนที่มีโรคเกี่ยวกับผิวหนังบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ชำนาญการก่อนทำโปรแกรม oligio
ทำ Oligio จุดไหนได้บ้าง
- ผิวทั่วหน้า รวมถึงหางตา หางคิ้ว มุมปาก
- Oligio ยกแก้ม
- Oligio ลดเหนียง
- กรอบหน้า
- รอบลำคอ
- ต้นแขน
ควรทำ Oligio กี่ช็อต กี่ครั้ง
ทำเครื่อง Oligio 1 ครั้งควรทำกี่ช็อต? จำนวนช็อตจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ สภาพผิวในบริเวณนั้น และขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการ ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ชำนาญการ เพื่อประเมินจำนวนช็อตและจำนวนครั้งที่เหมาะกับตัวเอง
จำนวนช็อตที่ใช้ยิงในแต่ละจุด ที่แนะนำโดยโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ คือ
- 600-900 shots เหมาะกับผิวทั่วใบหน้า เน้นกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยจางๆ ยกกระชับผิว
- 400-600 shots สำหรับยกแก้ม ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม
- 400-600 shots สำหรับลดไขมันบริเวณเหนียง กรอบหน้า
- 200-400 shots สำหรับการยกหางตา มุมปาก
- 400-600 shots สำหรับยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ
- 900-1000 shots สำหรับการสลายไขมันบริเวณต้นแขน
ผลลัพธ์หลังทำ Oligio อยู่ได้กี่เดือน
ผลลัพธ์หลังทำ Oligio ครั้งแรก อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ถ้ากระตุ้นทุกๆ 6 เดือน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 12-14 เดือน เพราะคอลลาเจนในผิวได้รับการกระตุ้นซ้ำ หน้าจะดูเรียวยก ผิวอิ่มฟูได้นานขึ้น แต่ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังทำของแต่ละคน
Oligio ลดเหนียงได้ไหม
เครื่องยกกระชับ Oligio มีคลื่นพลังงานวิทยุความถี่ต่ำและเสถียร จึงช่วยลดเหนียง ลดไขมันบริเวณเหนียง แก้ปัญหาเหนียงหย่อน เหนียงห้อยได้ดี นอกจากลดขนาดเหนียง ยังช่วยให้ผิวบริเวณเหนียงกระชับขึ้น เหนียงเล็กลง โครงหน้าชัดขึ้น
oligio ช่วยลดเหนียงได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผู้ชายที่ทำเครื่อง oligio จะกรอบหน้าชัดขึ้น Jawline เด่น ช่วยให้หน้าดูคม ส่วนผู้หญิงที่ทำ Oligio หน้าจะดูเรียว วีเชฟ หน้ายกผิวฟูขึ้น
Oligio อันตรายไหม หลังทำหน้าจะระบมไหม
Oligio ไม่อันตราย เมื่อรับบริการกับแพทย์ ในคลินิกที่ใช้เครื่อง Oligio เครื่องแท้จากบริษัทผู้ผลิต
Oligio เป็นหัตถการยกกระชับผิวด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย เพราะใช้คลื่น 6.78 MHz เป็นช่วงความถี่ต่ำและคงที่ ออกฤทธิ์เฉพาะบริเวณที่ยิงคลื่น ไม่ทำให้ผิวบริเวณใกล้เคียงระคายเคือง และบนหัว Tip ยังมีมีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิที่ผิว (Skin Temperature Tracking Sensor) ถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปเครื่องจะหยุดอัตโนมัติ ผิวจึงไม่ไหม้เบิร์น ไม่แสบร้อนผิว ไม่มีแผลหลังทำ บวกกับระบบปล่อยความเย็น Cooling System ปล่อยความเย็นให้ผิวชั้นนอกสุด ช่วยลดความรู้สึกแสบร้อนสะสม
Oligio vs โบท็อก ถ้ากรามใหญ่ อยากหน้าเรียวเลือกทำอะไรดี
Oligio กับโบท็อก เป็นหัตถการที่มีความแตกต่างกัน แต่ทั้งสองหัตถการช่วยให้ใบหน้าดูวีเชฟขึ้นได้ คนที่กรามใหญ่ โครงหน้าไม่ชัดสามารถทำสองหัตถการพร้อมกัน หรือเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้
- โบท็อกกราม เป็นการฉีดตัวยาที่มีฤทธิ์ในการคลายกล้ามเนื้อ ใช้ฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนหน้าบานเพราะกล้ามเนื้อกรามใหญ่ เมื่อฉีดโบท็อกกราม กล้ามเนื้อกรามจะคลายตัวทำให้หน้าดูเล็กและเรียวขึ้น
- Oligio เป็นเครื่องยกกระชับสลายไขมันเจนเนอเรชั่นใหม่ ใช้คลื่นและพลังงานความร้อนในการยกกระชับผิว ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น การทำ oligio บริเวณแก้ม กรอบหน้า ใต้คาง ช่วยให้หน้าดูยก เหนียงยุบ หน้าวีเชฟขึ้น
นอกจากเทคโนโยลีใหม่ล่าสุด Oligio ยังผ่านการทดสอบและได้ผ่านการรับรอง FDA จากไทย อเมริกา ยุโรป เกาหลี มั่นใจทั้งเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์ หลังทำเสร็จใบหน้าจะรู้สึกอุ่นๆ ตึงเล็กน้อย แต่ไม่ระบม ไม่บวม ไม่ช้ำ
อยากลดไขมัน เลือกทำแฟต หรือ Oligio
ทั้ง Oligio และ เมโสแฟต สามารถลดไขมันสะสมได้ดีทั้งคู่ คนที่มีไขมัน อยากลดไขมันเร่งด่วนโดยไม่ทำโปรแกรมดูดไขมัน สามารถเลือกทำทั้งแฟตและ Oligio หรือเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามความต้องการ
- แฟต (Fat) คือการฉีดสลายไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หรือจุดต่างๆที่มีไขมันสะสม ไขมันที่สลายจากการฉีดแฟตจะถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้บริเวณที่ฉีดแฟตเรียวขึ้น ดูกระชับขึ้น สัดส่วนลดลง หลังฉีดแฟตไขมันเก่าจะสลายภายใน 5-7 วัน
ข้อดีของแฟตคือ เห็นผลเร็ว สามารถฉีดซ้ำได้ทุกๆ 7-10 วัน เพื่อให้ไขมันเก่าและไขมันใหม่ลดลง ฉีดได้หลายบริเวณพร้อมกัน ช่วยลดเหนียง ลดไขมันที่แก้ม ลดไขมันต้นแขน ไขมันรอบพุงได้ดี
ข้อเสีย คือ อาการบวม ช้ำเขียว และจำเป็นต้องฉีดตามจำนวน cc และจำนวนครั้งตามที่แพทย์แนะนำถึงจะเห็นผลชัด
อ่านเพิ่มเติม เรื่อง รวมข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดแฟต ฉบับอัปเดตล่าสุด คลิกเลย
- Oligio เป็นเครื่องยกกระชับสลายไขมันเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ไม่ใช้การฉีด แต่ใช้คลื่นและพลังงานความร้อนในการสลายไขมันใต้ชั้นผิว ช่วยให้ร่างกายสลายไขมันได้ดีขึ้น และช่วยให้ผิวบริเวณที่ไขมันสลายไปกระชับขึ้น ผิวไม่หย่อน ไม่เหี่ยวหลังทำ และยังช่วยให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น ผิวแน่นกระชับ อิ่มฟู ลดริ้วรอยจางๆ ได้ดี ช่วยให้หน้าดูเด็กขึ้น
ข้อดีของ oligio คือ ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องพักหน้าหลังทำ สามารถแต่งหน้า ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทำ Oligio 1 ครั้ง อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน ถ้ากระตุ้นทุกๆ 6 เดือน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน
ข้อเสียของ oligio ลดไขมันได้เฉพาะบางจุด เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน และต้องรอให้เห็นผลเต็มที่ ประมาณ 2-3 เดือน
หลังทำ Oligio ต้องพักหน้าไหม
Oligio เป็นหัตถการหนึ่งที่ไม่ต้องดูแลจุกจิก หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักหน้า สามารถแต่งหน้าได้ทันที ไม่จำเป็นต้องหยุดทาครีมหรือสกินแคร์ สามารถทานอาหารหรือกินยาโรคประจำตัวได้ตามปกติ และสามารถทำหัตถการอื่นๆ หลังจากทำ Oligio ได้ด้วย
เรื่องที่ต้องรู้ และข้อแนะนำก่อนทำ Oligio
- ควรประเมินผิวหน้าและวางแผนการรักษากับแพทย์ชำนาญการก่อนทำ oligio เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม
- แจ้งประวัติการแพ้ยา, ยาที่กินเป็นประจำ, โรคประจำตัว และภาวะการตั้งครรภ์กับแพทย์ผู้ให้บริการเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
การดูแลตัวเองหลังทำ เครื่องยกกระชับ Oligio
การดูแลตัวเองหลังทำ oligio ไม่มีกำหนดตายตัว สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ส่วนอาการหลังทำ Oligio ที่พบได้บ่อย คือ รู้สึกอุ่นๆ บริเวณผิวที่ยิง ผิวบวมแดงเล็กน้อย รู้สึกตึงที่ผิว เป็นอาการปกติที่ไม่อันตราย ความร้อนจะค่อยๆ หายภายใน 4-6 ชม. อาการตึงผิวจะหายเป็นปกติภายใน 3-7 วัน
ทำ Oligio ที่คลินิกไหนดี
อยากทำ oligio ให้เห็นผลชัด ปลอดภัย ใช้เครื่องแท้ ควรเลือกทำในคลินิกที่มีมาตรฐาน ให้บริการโดยแพทย์ชำนาญการที่ผ่านการเทรนนิ่ง ออร่าแนะนำให้สังเกตคลินิกก่อนเข้ารับบริการ ดังนี้
- มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และใบอนุญาตการขึ้นทะเบียนสถานประกอบการในบริเวณที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน จากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์ที่ให้บริการในคลินิก เป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ มีประสบการณ์ สามารถเช็กจากฐานข้อมูลแพทยสภา Website: https://checkmd.tmc.or.th/
- แพทย์ผ่านการเทรนนิ่ง การใช้เครื่อง oligio มีใบรับรองจากบริษัทผู้ผลิต oligio ติดในบริเวณคลินิกที่มองเห็นได้ชัดเจน
- คลินิกที่มีตั้งชัดเจน สะอาด ปลอดโปร่ง พร้อมให้บริการ
- คลินิกมีการนัดติดตามผลหลังทำ
รวม คำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับเครื่อง Oligio
Q: ทำ Oligio เจ็บไหม แสบผิวไหม
A: ระหว่างทำละหลังทำ oligio จะไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบผิว และหลังทำเสร็จใบหน้าจะรู้สึกอุ่นๆ ตึงเล็กน้อย แต่ไม่ระบม ไม่บวม ไม่ช้ำ เพราะ oligio ใช้คลื่นพลังงานคงที่ มีนวัตกรรมตรวจจับอุณหภูมิ และระบบ Cooling System ลูกค้าที่รับบริการจะไม่ระคายเคืองผิวระหว่างทำ และไม่มีอาการแทรกซ้อนหลังทำด้วย
Q: ผิวแก่ อยากแก้ปัญหาผิวตามช่วงอายุ เลือกทำ Oligio หรือ Sculptra
A: ผิวที่มีอายุ คอลลาเจนในผิวจะลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เหี่ยว ไม่กระชับ มีริ้วรอยง่าย การกระตุ้นคอลลาเจนจะช่วยให้ผิวกลับมากระชับ ดูอิ่มฟู แข็งแรงขึ้น ทั้งโปรแกรม Oligio และ Sculptra สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้เหมือนกัน สามารถเลือกทำทั้งสองโปรแกรม หรือเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามความต้องการ
Q: Oligio ทำครั้งเดียว อยู่ได้ถาวรได้ไหม
A: ผลลัพธ์หลังทำเครื่อง oligio ไม่อยู่ถาวร แต่การทำ Oligio 1 ครั้งตามจำนวนช็อตที่แพทย์แนะนำ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน แนะนำให้ทำกระตุ้นทุกๆ 6 เดือน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน
Q: ทำ Oligio หลายๆ ช็อต หน้าจะตอบไหม
A: Oligio ควรทำตามจำนวนช็อตที่พอดีกับผิว แล้วผลลัพธ์หลังทำจะชัดเจน โดยจำนวนช็อตที่เหมาะกับผิวต้องมาจากคำแนะนำของแพทย์ชำนาญการที่ผ่านการเทรนนิ่งมาแล้ว ออร่าแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาก่อนทำ
Q: Oligio แบ่งทำหลายๆ ครั้งได้ไหม
A: Oligio สามารถซื้อจำนวนช็อตเยอะๆ แล้วแบ่งทำได้ เช่น Oligio 1200 shots แบ่งทำครั้งละ 600 shots ถ้าต้องการแบ่งทำมากกว่า 1 ครั้ง แนะนำให้แพทย์ประเมินผิวก่อน
Q: Oligio มาจากไหน
A: เครื่อง Oligio เป็นนวัตกรรมยกกระชับจากบริษัท Wontech บริษัทนวัตกรรมเครื่องมือการแพทย์ ประเทศเกาหลี ผ่านการรับรองมาตรฐานจากเกาหลี สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเครื่อง oligio จึงได้รับความนิยมมากในคลินิกและโรงพยาบาลเสริมความงามของเกาหลี