Juvelook งานผิวตัวใหม่สุดฮิตของสายเกา เน้นหน้าเงาใส เบลอริ้วรอย

03/10/2024

celebrities trust clinic

เคล็ดลับผิวใสเด้ง รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนละเอียดของพี่สาวเกาหลี คือการฉีด Juvelook งานผิวที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นคอลลาเจน PDLLA และ HA ในตัวเดียว แก้ปัญหาผิวขาดวอลลุ่ม ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ฟื้นฟูผิวบริเวณรอบดวงตา ผิวแห้งขาดความชุ่มชื่นได้ดี ปลอดภัยกับผิวและร่างกาย Juvelook ดียังไง ต่างจากฟิลเลอร์ยังไง เริ่มเห็นผลภายในกี่วัน ฉีดแล้วต้องนวดหน้าไหม ออร่ารวมคำตอบให้ในบทความนี้

Juvelook คือ ?

Juvelook (จูวีลุค) คือ สารกระตุ้นคอลลาเจน Hybrid biostimulator ที่มีส่วนผสมทั้ง PDLLA (Poly D,L-Lactic Acid) และ HA ในตัวเดียวกัน โดยอนุภาค PDLLA ใน Juvelook ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้หน้าเด้งผิวฉ่ำเงา เพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานกับ อนุภาคของ HA ช่วยเติมเต็มผิ เติมร่องลึก เบลอริ้วรอย ฟื้นฟูหลุมสิว เบลอรูขุมขน ช่วยให้ผิวเงาใสยาวนานถึง 12-18 เดือน เมื่อฉีดต่อเนื่อง 3 ขวด

JUVELOOK  JUVELOOK for skin  skin quality

Juvelook เหมาะกับใคร

  • รูขุมขนกว้าง 
  • มีหลุมสิว 
  • ผิวขาดวอลลุ่ม 
  • ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ มีร่องน้ำตา 
  • มีริ้วรอย มีตีนกา มีริ้วรอยรอบๆ คอ 
  • ผิวหมอง หน้าแห้ง แต่งหน้าไม่ติด

ฉีด Juvelook ช่วยเรื่องอะไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง

  • ฉีดทั่วหน้า กระตุ้นคอลลาเจนช่วยให้ผิวอิ่มฟู ผิวเด้งฉ่ำเงา
  • ฉีดเน้นหน้าแก้ม กระตุ้นคอลลาเจน รูขุมขนแน่นกระชับ
  • ฉีดหน้าผาก ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ใสเด้ง
  • ฉีดใต้ตา ช่วยให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น ริ้วรอยจางลง ถุงใต้ตาดูตื้นขึ้น
  • ฉีดหลุมสิว กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูหลุมสิว
  • ฉีดตีนกา ร่องน้ำตา ให้ผิวเรียบ สม่ำเสมอ
  • ฉีดเฉพาะจุด เพื่อลดเลือนรอยแผลเป็น ลดผิวแตกลาย

จูวีลุคฉีดตรงไหนได้บ้าง

Juvelook รีวิว

juvelook รีวิว  juvelook ฉีดหน้าผาก  juvelook ใต้ตา

Juvelook มีข้อดี ข้อเสียอะไรที่ควรรู้บ้าง

ข้อดีของจูวีลุค ยิ่งฉีด ผิวยิ่งฟู

  • มีส่วนผสมทั้ง PDLLA (Poly D,L-Lactic Acid) และ HA ในตัวเดียวกัน 
  • อนุภาคของ PDLLA ช่วยให้ไฮโดรเจลของ HA มีความเหนียวและแน่นขึ้น ยึดเกาะผิวได้ดี ไม่เคลื่อน ไม่ไหล 
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เติมเต็มผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน 
  • ช่วยลดรอยแผลเป็น และรอยแตกลายบนผิวหนังได้ 
  • ใช้ฉีดเฉพาะจุดได้ เช่น ใต้ตา หน้าแก้ม หรือฉีดทั่วหน้าเพื่อผิวใสฉ่ำเด้ง 
  • เห็นผลทันทีหลังฉีด ไม่จำเป็นต้องนวด  
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18 เดือน เมื่อฉีดต่อเนื่อง 3 ขวด

ข้อเสีย

  • เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรหาเวลามาฉีดอย่างต่อเนื่อง ต่อเนื่องกัน 1 เดือน จนครบ 3 ครั้ง

ฉีด Juvelook กี่ขวด เห็นผล

จำนวน cc ที่ใช้เพื่อปรับสภาพผิว ขึ้นอยู่กับระดับปัญหา ผลลัพธ์ที่ต้องการ และการประเมินของแพทย์ ดังนี้ 

  • Juvelook 1 ขวด เหมาะกับริ้วรอยจางๆ ใต้ตาคล้ำ หน้าแห้ง 
  • Juvelook 2-3 ขวด (ฉีดครั้งละ 1 ขวด ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง) เหมาะกับริ้วรอยชัด ใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตาใหญ่ มีหลุมสิว รูขุมขนกว้าง

Juvelook กี่วันเห็นผล  

การฉีดจูวีลุค จะทยอยเห็นผลลัพธ์ แบ่งเป็น 3 ช่วง 

  • หลังทำทันที สำหรับปัญหาใต้ตาลึก มีถุงใต้ตา ผิวไม่มีวอลลุ่ม หลังฉีด Juvelook จะช่วยเติมเต็มผิว เพิ่มวอลลุ่มผิวได้ทันทีหลังฉีด
  • หลังฉีด 2-4 สัปดาห์ อนุภาค HA จะสลาย PDLLA จะเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เสริมความยืดหยุ่นให้ผิว ผิวอิ่มฟู เรียบเนียนสม่ำเสมอ เบลอริ้วรอย 
  • หลังฉีด 6 เดือน คอลลาเจนในผิวเพิ่มมากขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวใสฉ่ำเด้ง รอยแตกลายและรอยแผลเป็นดูจางลง 

juvelook ดีจริงไหม  ลดตีนกา  juvelook ผลลัพธ์

ฉีดจูวีลุคอยู่ได้นานไหม 

ฉีด Juvelook ผิวจะอิ่มฟู ดูเต็มขึ้นนานน 12 เดือน หากต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ผลลัพธ์ชัดเจน ผิวเด้งฉ่ำเงาขั้นสุด ออร่าแนะนำฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 18 เดือน (หลังจากฉีดขวดสุดท้าย) 

Juvelook กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันยังไง ฉีดพร้อมกันได้ไหม 

จูวีลุคกับฟิลเลอร์ แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องส่วนผสมและผลลัพธ์  

  • Juvelook (จูวีลุค) คือสารกระตุ้นคอลลาเจน Hybrid biostimulator ที่มีส่วนผสมทั้ง PDLLA และ HA ในตัวเดียวกัน เน้นฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน เหมาะสำหรับคนมีหลุมสิว ริ้วรอยร่องตื้น และใต้ตาหมองคล้ำ  
  • Filler (ฟิลเลอร์) คือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid: HA  เน้นฉีดเติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้า สามารถฉีดเฉพาะจุดได้ เช่น ปาก ขมับ คาง และเหมาะกับคนที่วอลลุ่มผิวลดลง มีร่องลึก มีปัญหาหน้าไม่เท่ากัน  

Juvelook กับ ฟิลเลอร์ สามารถฉีดพร้อมกัน ในวันเดียวกันได้ ในบางเคสเช่น มีถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำและลึก สามารถฉีดฟิลเลอร์และจูวีลุคในบริเวณเดียวกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์เท่านั้น 

ใต้ตาคล้ำ ฉีด Juvelook หรือ ฟิลเลอร์ใต้ตา

ทั้งสองหัตถการสามารถใช้ฉีดใต้ตาได้ การเลือกทำหัตถการควรขึ้นอยู่กับปัญหา ผลลัพธ์ที่ต้องการ และการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  

  • ถ้าต้องการแก้ปัญหาตาลึกโบ๋ มีร่องน้ำตา รอยย่นยับ มีถุงใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด  
  • ในบางเคสที่ผิวยุบบางลง จนเบ้าตาลึก ทำให้เกิดเงาตกกระทบใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ หากต้องการแก้ไขที่ต้นเหตุ จะต้องเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวบริเวณใต้ตา เพื่อให้ผิวหนาขึ้น ลดการมองเห็นเส้นเลือดใต้ผิว ซึ่ง Juvelook เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์เรื่องการรักษาใต้ตาดำได้ดี และเป็น 

ดังนั้นถ้ามีปัญหาใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอย มีตีนกา อายุเยอะถุงใต้ตาชัด ตาลึกโบ๋ สามารถฉีดทั้ง juvelook และ ฟิลเลอร์พร้อมกันได้ ยิ่งฉีดคู่กัน ยิ่งเห็นผลชัดเจน และต้องใช้จำนวน cc หรือจำนวนครั้งตามที่แพทย์แนะนำ 

แก้ตาดำ  รีวืว Juvelook Filler  juvelook filler

โปรลับ แพคคู่กู้ใต้ตาโทรม! Juvelook 6 cc + Filler 2 cc ราคาเพียง 39,900.- จากปกติ 49,790.- คุ้มสองต่อ ลูกค้าใหม่รับฟรีฉีดหน้าใส 2 เข็ม มูลค่า 1,800 บาท คลิกเลย! 

 

Juvelook กับ Sculptra ต่างกันยังไง เลือกฉีดอะไรดี 

หลายคนสับสนระหว่าง Juvelook กับ Sculptra และเข้าใจว่าสามารถใช้แทนกันได้ จริงๆ แล้วสารประกอบของทั้งสองตัวนี้ไม่เหมือนกัน 

  • Juvelook เป็น Hybrid biostimulator ที่มี 2 ส่วนผสมทั้ง PDLLA และ HA ในตัวเดียวกัน เน้นฉีดเพื่อปรับสภาพผิว เติมเต็มผิว หลุมสิวและรูขุมขน หลังฉีดไม่จำเป็นต้องนวด 
  • Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ชนิด Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติ ยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวทรุด ผิวเหี่ยว โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ปัญหาผิวตามช่วงอายุ หลังฉีดต้องนวดหน้าตามหลัก Triple 5 เพื่อกระตุ้มการสร้างคอลลาเจน 

สามารถเลือกฉีดตามปัญหาผิว แบ่งเป็น 

  • Juvelook เหมาะกับผิวบาง ผิวแห้ง มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว  
  • Sculptra เหมาะกับผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวทรุด โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ปัญหาผิวตามช่วงอายุ  

ถ้ายังลังเลว่า ปัญหาผิวของเราควรฉีดตัวไหนดี สามารถปรึกษาและประเมินกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ Aura Bangkok Clinic ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

Juvelook, Rejuran, Skinvive, Belotero revive, เมโสหน้าใส ต่างกันยังไง

Juvelook ไม่ใช่เมโสหน้าใส หรือวิตามินฉีดหน้าใส ดังนั้น juvelook จะไม่ได้ช่วยให้ผิวขาว หรือลดจุดด่างดำ แต่ juvelook ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนจากภายใน ช่วยให้ผิวเด้ง ดูอิ่มฟู ชุ่มชื้นขึ้น และถ้าเทียบกับ Rejuran หรือ Belotero revive งานผิวทั้ง 3 ตัวให้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน  

  • Juvelook เป็น Hybrid biostimulator เน้นฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในผิว เติมเต็มผิว หลุมสิวและรูขุมขน ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด ฉีดทั่วหน้าหรือฉีดเฉพาะจุดได้ 
  • Rejuran เน้นฉีดความฉ่ำวาวของผิว ซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เสริมความแข็งแรงของ Skin Barrier ใช้ฉีดได้ทั่วหน้าและลำคอ 
  • SKINVIVE เป็น Skin Booster ตัวใหม่ล่าสุด ช่วยให้ผิวฉ่ำน้ำ ผิวใสเนียนละเอียด ผิวชุ่มชื่น แต่งหน้าติดทนขึ้น รูขุมขนกระชับ นานถึง 9 เดือน 
  • Belotero Revive เน้น Skin Quality โดยเฉพาะ เป็นฟิลเลอร์งานผิวกระจกเพียงตัวเดียวที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Glycerol เน้นผิวเนียนละเอียด นิยมฉีดบริเวณหน้าแก้ม

juvelook ดียังไง

 

ฉีด Juvelook ลดริ้วรอยแทนโบริ้วรอยได้ไหม

  • Juvelook ใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในผิว ให้ผิวอิ่มฟู ริ้วรอยดูจางลงเพราะผิวฟู ดูเรียบเนียนขึ้น ไม่สามารถลดการขยับของกล้ามเนื้อได้เหมือนกับฉีดโบริ้วรอย 
  • โบริ้วรอย ใช้ลดริ้วรอยโดยเฉพาะ โดยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ลดการขยับ และป้องกันการเกิดริ้วรอยถาวร 

สรุป จูวีลุค ฉีดแทนโบริ้วรอยไม่ได้ แต่สามารถฉีดจูวีลุคพร้อมกับโบริ้วรอย เพื่อให้ผิวเรียบเนียน ฉ่ำเด้ง หน้าดูเด็กขึ้นได้ สนใจฉีดโบริ้วรอย   

Juvelook รักษาหลุมสิว ได้ไหม

คนที่มีปัญหาหลุมสิว อยากลดหลุมสิว และกำลังมองหา วิธีลดหลุมสิว เติมหลุมสิว โดยไม่ต้องเลเซอร์และเห็นผลเร็ว อยู่ได้นาน juvelook สามารถช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ โดยโมเลกุลของ HA ในจูวีลุค จะช่วยเติมผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ดูเต็มขึ้น โมเลกุลของ PDLLA จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวฟูขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น โมเลกุลทั้งสองตัวจะเสริมการทำงานของกันและกัน นอกจากช่วยเรื่องหลุมสิว ยังช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย

Juvelook ราคา เท่าไหร่

juvelook 1 ขวด

ฉีด Juvelook ที่คลินิกไหนดี

อยากลองฉีด juvelook ครั้งแรก ฉีดที่ไหนดี เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน โดยเช็กจากลิสต์นี้ 

  1. เช็กคลินิกที่ได้มาตรฐาน  ผ่านช่องทางของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทร : 02-1937000 
  2. เช็กเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก ถ้าเป็นคลินิกที่ผ่านการรับรอง มักแสดงใบอนุญาตในบริเวณที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน  
  3. เช็กชื่อคุณหมอให้ชัวร์ หมอต้องมีตัวตนอยู่จริง มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาปรับรูปหน้า สามารถเช็กจากฐานข้อมูลแพทยสภา Website: checkmd.tmc.or.th หรือโทร 0 2193 7000 
  4. เช็กความน่าเชื่อถือของคลินิกจากรีวิวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หน้าเว็บไซต์และช่องทาง Official Page ของคลินิก  
  5. โปรโมชั่นและราคาสมเหตุสมผล ไม่แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง

training doctor  inhouse training  procedure train

แนะนำการเตรียมตัวก่อนฉีด Juvelook

  • เลือกคลินิกที่สั่งซื้อ juvelook อย่างถูกต้อง จากบริษัทที่นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยตรง 
  • เลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง ต้องเป็นหมอที่มีตัวตนจริง มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 
  • แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม  
  • ประวัติการแพ้ยา, ยาที่กินเป็นประจำ, โรคประจำตัว และภาวะการตั้งครรภ์กับคุณหมอก่อนการฉีดฟิลเลอร์ juvelook ทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน 
  • 2 สัปดาห์ก่อนฉีด หลีกเลี่ยงการทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต เช่น วิตามินซี เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย 
  • ถ้าต้องทำหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ Ultraformer III ฉีดแฟต ฯ สามารถทำวันเดียวกันได้แต่ควรทำหัตถการอื่นให้เรียบร้อยก่อนเริ่มฉีด juvelook 

คลินิกฉีด juvelook

ข้อปฏิบัติหลังฉีด Juvelook

  • หลังฉีด JUVELOOK จะมีตุ่มนูนขึ้นตามจุดที่ฉีด เป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย ตุ่มจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 1-3 วัน 
  • อาจมีรอยเข็มเล็ก รอยแดงจางๆ รอประมาณ 4-6 ชั่วโมงเมื่อแผลปิดสนิท สามารถใช้คอลซีลเลอร์กลบได้ รอยแดงที่มีจะค่อยๆ หายได้เองภายใน 5-7 วัน 
  • เพื่อความสะอาดและลดโอกาสติดเชื้อ แนะนำให้ใช้น้ำสะอาด น้ำดื่ม น้ำเกลือในการทำความสะอาดผิว และงดแต่งหน้าในช่วง 24 ชม. หลังฉีด 
  • รอยเขียวช้ำ เกิดได้ในบางเคสและไม่อันตราย สามารถทายาลดรอยเขียวช้ำได้ และรอยช้ำจะค่อยๆ หายได้เองภายใน 7-14 วัน  
  • ควรบำรุงผิวหน้า ทามอยเจอไรเซอร์ ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ  
  • ควรฉีดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยาวนาน 

การดูแลหลังฉีด juvelook

Q&A

Q: Juvelook ปลอดภัยไหม 

A: Juvelook ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย (อย.) และประเทศเกาหลี (KFDA) ได้รับการรับรอง CE Mark ตามมาตรฐานยุโรป ใช้ฉีดกันอย่างแพร่หลายในคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก  ส่วนประกอบสำคัญอย่าง PDLLA ใน Juvelook เป็นไอโซเมอร์ที่เข้ากับร่างกายได้ดี จึงมีความปลอดภัย และถูกนำไปใช้ทำวัสดุทางการแพทย์อีกด้วย 

Q: ฉีดใต้ตาด้วย Juvelook จะเป็นก้อนไหม

A: โอกาสที่ฉีดจูวีลุคแล้วเป็นก้อน มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากเพราะ จูวีลุคมีส่วนผสมของ 2 อนุภาค ที่ช่วยเสริมการทำงานของกันและได้ดี โดยอนุภาคของ PDLLA ช่วยให้ไฮโดรเจลของ HA มีความเหนียวและแน่นขึ้น ยึดเกาะผิวได้ดี ไม่เคลื่อน ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน 

Q: Juvelook แสบไหม หลังฉีดเป็นตุ่มไหม บวมมากไหม

A: จูวีลุคแสบน้อย บวมน้อย ตุ่มตัวยาน้อยมาก เพียง 2-4 ชั่วโมงหลังฉีดตุ่มก็จะยุบลง อาการบวมหลังฉีดจะค่อยๆ ยุบลง ประมาณ 1-3 วัน

จุวีลุค  Juvelook กี่cc  juvelook กี่ครั้งเห็นผล

Q: หลังฉีด Juvelook ต้องพักหน้าไหม แต่งหน้าได้ไหม

A: เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก และลดโอกาสการติดเชื้อ แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้งดแต่งหน้า 24 ชม. หลัง 24 ชม. สังเกตว่าตุ่มยุบ รูเข็มปิดแล้ว สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ หรือถ้าจำเป็นต้องแต่งหน้า สามารถแต่งได้หลังฉีดเสร็จ 4-6 ชม. 

Q: อายุเยอะฉีด Juvelook ได้ไหม

A: ผิวแก่ ผิวขาดความยืดหยุ่น แนะนำให้ฉีด juvelook เพราะช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น และจริงๆ แล้ว Juvelook เหมาะกับทุกช่วงอายุ  ทุกเพศทุกวัย ยิ่งฉีดเร็ว ผิวยิ่งสุขภาพดี 

Q: หลังฉีด Juvelook ฉีดหน้าอย่างอื่นได้ไหม

A: จูวีลุค สามารถฉีดวันเดียวกับแฟต โบกราม โบริ้วรอย ฟิลเลอร์ หรือเครื่องยกกระชับอื่นๆ ได้ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง 

Q: ฉีด Juvelook ลดเส้นที่คอได้ไหม

A: สามารถฉีด Juvelook ลดรอยพับและริ้วรอยที่คอได้ จูวีลุคจะเข้าไปเติมเต็มรอยพับและรอยย่นให้เต็มขึ้น ทำให้เส้นที่คอดูจางลง 

Q: Juvelook รอกี่เดือน ถึงควรกลับมาฉีดซ้ำ

A: จูวีลุคสามารถฉีดต่อเนื่องทุกเดือนได้ หลังจากฉีดครั้งล่าสุด เว้นเพียง 1 เดือนก็สามารถกลับมาฉีดเพิ่มได้

thai aesthetic clinic

โปรโมชั่นประจำเดือนนี้

juvelook ราคา

ปรึกษาคุณหมอฟรี

หมอฉีดหน้า หมอฝาย

บทความอื่นๆ