Sculptra คือ Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้สูงถึง 66% ช่วยแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุ เสริมความแข็งแรงให้ผิวจากภายในสู่ภายนอก ฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย โทรม ไม่กระชับ ให้กลับมาอิ่มฟู แน่นกระชับ ลดริ้วรอย กระตุ้นผิวเด็ก ล็อกผิวใส คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวนานถึง 2 ปี
Sculptra สามารถแก้ปัญหาเล็กๆ เช่นริ้วรอย ผิวหมอง ผิวแห้งขาดน้ำ ไปจนถึงปัญหาใหญ่ๆ เช่น หน้าหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยว ร่องแก้ม ขมับตอบ แก้มตอบ โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ฯ ถ้าเริ่มสนใจที่จะเสริมความแข็งแรงให้ผิว กระตุ้นให้ผิวแข็งแรง ผิวเด้ง ดูเด็กขึ้นแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าต้องฉีดกี่ครั้ง? ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง? ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน? ออร่ารวมทุกข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนฉีด Sculptra ไว้ในบทความนี้
Sculptra คืออะไร
Sculptra คือสารสกัดบำรุงผิวที่มีส่วนประกอบหลักเป็นสารสกัดจาก Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มฟู เพิ่มความยืดหยุ่นและความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เติมเต็มผิว ฟื้นฟูโครงสร้างของผิวชั้นลึก แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ให้ผิวกลับมาแข็งแรงและเรียบเนียนเหมือนผิวเด็กได้อีกครั้ง
Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้มากถึง 66.5% ซึ่งช่วยซ่อมแซมโครงสร้างผิวที่ทรุด หรือสูญเสียความยืดหยุ่นไปตามอายุ ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยดูยกกระชับ ผิวที่เสื่อมโทรมดูแน่นฟู เต่งตึง หน้าดูเด็กขึ้นทันที
Sculptra ทำงานยังไง
Sculptra ที่ผสมกับน้ำ (Sterlile Water) ถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิว Subcutaneous ในช่วงแรกจุดที่ฉีดจะอิ่มฟู ดูเต็มขึ้น หน้ายกกระชับ 20% จากโมเลกุลของน้ำ เมื่อเวลาผ่านไปน้ำจะถูกดูดซึมจนหมด คงเหลือแต่ผลึกของ PLLA
ในช่วง 2-3 เดือนเป็นช่วงที่ PLLA จะส่งสัญญาณให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) หลายๆ เซลล์มารวมตัวกันแล้วสร้างสารสำคัญในผิว งานวิจัยระบุว่า ปริมาณเซลล์ผิวใหม่เพิ่มขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติมากถึง 66.5% วอลลุ่มผิวจึงเพิ่มขึ้น ผิวดูแน่นฟู ตึงกระชับ หลังผ่านไประยะหนึ่ง Sculptra จะค่อยๆ สลายจนหมด แต่ผิวจะแข็งแรงเหมือนเดิม ผิวจึงยกกระชับและอิ่มฟูได้นาน 2 ปี เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
Sculptra เหมาะกับใคร ?
- คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- คนที่ผิวเริ่มมีอายุ หน้าห้อย มีริ้วรอยจางๆ
- คนที่โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ผิวหลวม ขาดการดูแล
- คนที่ต้องการให้ผิวดูแน่น อิ่มฟู ดูกระชับ
Sculptra ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- แก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น ให้อิ่มฟู แน่น เต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ยกกระชับผิว ยกหน้าให้เรียวขึ้น ลดกระเปาะแก้ม
- ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกด้วยการฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก
- แก้ปัญหาผิวหมอง ผิวหน้าอ่อนล้าขาดความชุ่มชื่น ให้ผิวชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง กระจ่างใส
- กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน
ฉีด Sculptra จุดไหนได้บ้าง
- ฉีดยกกระชับหน้า
หน้าเป็นจุดที่นิยมฉีดมากที่สุด เพราะช่วยให้หน้าเรียวยก ผิวหน้าอิ่มฟู ดูเด็ก ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ยิ่งฉีดด้วยเทคนิค Triple Lift จะยิ่งช่วยยกกระชับ เก็บกระเปาะแก้มให้หน้าเรียวเล็กได้ดี ช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ และเติมริ้วรอยลึกให้ตื้นขึ้น เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวหน้าอย่างเป็นธรรมชาติทันทีหลังฉีด 20% และช่วยให้หน้ายกกระชับได้นานถึง 2 ปี
- ฉีดแก้ปัญหาคอเหี่ยว
การฉีดบริเวณคอ จะช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวรอบคอที่เหี่ยวให้แน่น กระชับ เต่งตึง
- ฉีดหลังมือ
ฉีดที่หลังมือสามารถแก้ปัญหาผิวเหี่ยว ทำให้ผิวมีรอยยับย่นให้เรียบเนียนขึ้นได้ เพราะสาร Bio Stimulator จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิว ผิวที่เหี่ยวย่นจะฟูขึ้น เรียบเนียนขึ้น
- ฉีดสะโพก
การฉีดสะโพกช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวบริเวณสะโพก แก้ปัญหาสะโพกบุ๋ม สะโพกไม่เท่ากันได้ ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ ดูแน่นขึ้น อิ่มฟูขึ้น
ฉีด Sculptra อันตรายไหม
- Sculptra เป็นสารบำรุงชั้นผิวตัวแรกของโลกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา ยุโรปและหลายอีกหลายประเทศทั่วโลก ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเป็นเวลานานกว่า 25 ปี ผ่านการวิจัย พัฒนาและทดสอบโดย Galderma Laboratories, L.P. มีงานวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำมากถึง 50 งานวิจัย
- คุณสมบัติที่สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกาย จึงถูกนำมาใช้ผลิตไหมละลายและแผ่นเพลทยึดกระดูกที่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว จะไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เมื่อฉีดสารที่เป็นของแท้กับแพทย์ที่ผ่านการเทรนจาก Galderma และฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน
โปรแกรม Sculptra ต่างจากหัตถการอื่นยังไง
ปัจจุบันมีหัตถการที่เป็นตัวเลือกด้านความงามออกมามากมาย แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแต่ละหัตถการช่วยเรื่องอะไรบ้าง และอะไรที่ทำให้ Sculptra แตกต่างจากหัตถการอื่น
Sculptra ต่างจาก Filler ยังไง
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มผิวด้วยสาร Hyaluronic acid ที่ช่วยให้ร่องลึกบริเวณผิวหน้าหายไป พร้อมช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน มีความชุ่มชื้นและฉ่ำวาวด้วยคุณสมบัติของสารไฮยาลูรอนที่ช่วยกักเก็บน้ำได้ดี โดยภาพรวมแล้วฟิลเลอร์จะเหมาะกับแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุด กลับกันสาร Bio Stimulator PLLA จะช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเส้นใยโครงสร้างผิวตามธรรมชาติของร่างกาย และช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในให้มีความเรียบเนียน ยืดหยุ่น ด้านผลลัพธ์จำเป็นต้องใช้เวลาถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่ฟิลเลอร์เน้นเติมปริมาตรทันที
Sculptra ต่างจาก Rejuran ยังไง
หลายคนเข้าใจว่าผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ทั้งสองมีความคล้ายกัน คือ ช่วยให้ผิวดูเด็ก ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส แต่จริงๆ แล้วมีจุดที่แตกต่างกันดังนี้
- Rejuran เป็นสารประเภท Polynucleotide (PN) สกัดจากสารพันธุกรรมของปลาแซลมอน ช่วยกระตุ้นการแบ่งเซลล์ของ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่มากขึ้น เน้นในเรื่องการเพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ฟื้นฟูเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่ในจุดที่เคยเป็นสิว และเหมาะกับคนที่ต้องการผิวหน้ากระจ่างใส หน้าฉ่ำวาว
- Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามกระบวนการธรรมชาติ สกัดจากพืชธรรมชาติ เพื่อให้โครงสร้างผิวมีความแข็งแรงจากภายใน ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มฟูดูเป็นธรรมชาติ เน้นแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยว
Sculptra ต่างจาก Radiesse ยังไง
- Radiesse เป็นสารกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายในผิว เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวโดยเฉพาะ มีส่วนประกอบของ Calcium hydroxylapatite (CaHA) ที่ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น เติมวอลลุ่มให้ผิวได้ทันทีหลังฉีด เน้นแก้ไขวอลลุ่มผิวที่หายไป เช่นแก้มตอบ ขมับตอบ เห็นผลชัดเจนภายใน 1 เดือนและคงอยู่ได้นาน 1 ปี ไม่เหมาะกับคนผิวบาง
- Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามกระบวนการธรรมชาติ มีส่วนประกอบของสารสกัดจาก Poly-L-Lactic (PLLA-SCA) เพื่อให้โครงสร้างผิวมีความแข็งแรงจากภายใน ทำให้ผิวยกกระชับ อิ่มฟูดูเป็นธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับคนทุกวัย ทุกสภาพผิว โดยจะเริ่มเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน และคงอยู่ได้นาน 2 ปี เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
Sculptra ต่างจาก Gouri ยังไง
Gouri เป็น Collagen Stimulator เหมือนกัน แต่มีส่วนประกอบและแก้ปัญหาต่างกัน คือ
- Gouri เป็นสารกระตุ้นชั้นผิว มีส่วนประกอบของสารสกัด Polycaprolactone (PCL) ที่อยู่ในรูปของสารละลาย สามารถฉีดได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำเกลือหรือตัวทำละลายอื่นๆ Gouri จะเห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ โดยต้องฉีดอย่างน้อย 3 ครั้ง ทุกๆ 1 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามธรรมชาติ มีส่วนประกอบของสารสกัดจาก Poly-L-Lactic (PLLA -SCA) มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว ต้องผสมกับน้ำ (Sterlile Water) และใช้เครื่องเฉพาะเขย่ายาให้ละลายก่อนฉีด ถึง โดยหลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ทันที 20% และเมื่อฉีดต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมินจะคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
Sculptra กับ ULTRACOL เหมือนกันไหม
ULTRACOL คือไหมน้ำ ผลิตจากไหมชนิด PDO (Polydioxanone) ไหมน้ำ 1 ขวดเทียบเท่าการร้อยไหมแบบเดิม 1200 เส้น จึงนิยมใช้สำหรับลดริ้วรอย เติมเต็มผิว ยกกระชับ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว โดยต้องฉีดอย่างน้อย 3 ครั้ง ทุกๆ 2-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน เหมาะกับผิวบางบริเวณ เช่นใต้ตาและร่องแก้ม
หากเทียบกันแล้ว Sculptra ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก แก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทั่วใบหน้าได้ดีที่สุด ฉีดได้หลายจุด ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา
Sculptra ต่างกับ Thermage Ulthera Ultraformer III ยังไง
เครื่องยกกระชับ Thermage Ulthera และ Ultraformer III เป็นหัตถการที่ออกแบบมาเพื่อยกกระชับด้วยเทคโนโลยีต่างๆ แตกต่างจาก Sculptra ที่เป็นการเติมสาร Bio Stimulator PLLA ช่วยให้หน้ายก ผิวอิ่มฟู ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ผิวขาดคอลลาเจนและต้องการผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงระยะยาว ขณะที่เครื่องยกกระชับทั้งสามจะเน้นการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับแบบทันที เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกหน้ากระชับผิวหย่อนคล้อยโดยเฉพาะ สามารถทำ Sculptra คู่กับเครื่องยกกระชับได้ทุกโปรแกรม เพื่อ Maintain ให้ผิวแน่น ผิวแข็งแรงอยู่เสมอ
ฉีด Sculptra เห็นผลทันทีไหม กี่เดือนเห็นผล ต้องฉีดกี่ครั้ง
หลังฉีด Sculptra จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที 20% เห็นผลเต็มที่ภายใน 3 เดือน คงอยู่ได้นาน 25 เดือน เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมิน สำหรับคนที่ผิวเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย ผิวโทรมมาก แนะนำให้ฉีดทุกเดือน ติดต่อกัน 3-4 เดือน
ฉีด Sculptra อยู่ได้นานไหม
เมื่อทำโปรแกรม Skin Sculpting Solution ครบตามที่แพทย์แนะนำ ผิวจะแน่น อิ่มฟู หน้ายกกระชับ หน้าเด็ก นาน 25 เดือน แนะนำให้ฉีดตามที่หมอประเมิน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่า
Sculptra ฉีดครั้งเดียวจะเห็นผลไหม? จริงๆ แล้ว เห็นผลดีเช่นกัน แต่คงอยู่ได้เพียง 2-4 เดือน ซึ่งจะไม่ใช่ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการฉีดตามที่แพทย์แนะนำ
Sculptra ราคาเท่าไหร่
เช็กรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sculptra ราคาและโปรโมชัน คลิกที่นี่!
ก่อนฉีด Sculptra เตรียมตัวยังไง
การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- เลือกคลินิกที่ใช้ยาแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง จากบริษัทที่นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยตรง
- ตรวจสอบผลิตภัณฑ์แท้ ผ่านแอปลิเคชัน EZtracker คลิกเพื่อดู How to ใช้แอปง่ายๆ
- เลือกแพทย์มากประสบการณ์ ต้องเป็นหมอที่มีตัวตนจริง มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
- แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม
- ประวัติการแพ้ยา, ยาที่กินเป็นประจำ, โรคประจำตัว และภาวะการตั้งครรภ์และให้นมบุตร กับคุณหมอก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- 2 สัปดาห์ก่อนฉีด หลีกเลี่ยงการทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เช่นวิตามินซี เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
ขั้นตอนการฉีด Sculptra
- ประเมินผิวหน้ากับแพทย์ เพื่อประเมินจำนวนครั้งที่ฉีดแล้วเห็นผลชัดเจนมากที่สุด
- ทำความสะอาดผิว และทายาชาบริเวณที่จะฉีด
- แพทย์ฉีดตัวยาลงไปใต้ชั้นผิว ชั้นหนังแท้ตามแนวยกกระชับ ด้วยเข็มทู่
- แพทย์จะนวดผิวบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัว
การดูแลหลังฉีด
- ควรประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการฉีดในช่วง 24 ชม. แรกเพื่อลดอาการบวม
- นวดหน้าตามหลัก Triple 5 ต่อเนื่อง 5 วัน วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ตัวยากระจายทั่วใบหน้า
- 24 ชั่วโมงหลังฉีด งดแต่งหน้า งดทาครีมบำรุง งดอบซาวน่าและอบไอน้ำ งดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน ยิงเลเซอร์ Ultraformer III, Thermage, Uthera
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดหรือแสงยูวีจนกว่าอาการบวมแดงจะหายไป
- งดแกะ เกา บีบและสัมผัสรอยเข็ม ถ้าเป็นคนบวมช้ำง่าย สามารถกินยาลดรอยช้ำได้
- ถ้าต้องการทำหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์ ฉีดแฟต วิตามินหน้าใส ควรเว้นระยะห่าง 7-14 วัน (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
ข้อควรระวังการฉีด sculptra
- Sculptra ต้องฉีดกับแพทย์ที่ผ่านการเทรนกับ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น เพราะเป็นหัตถการที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการฉีด
- ก่อนฉีดควรให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและจุดที่ควรแก้ไข
- ตรวจสอบและเลือกคลินิกที่ใช้ยาแท้ นำเข้าโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น ค้นหาคลินิกที่ผ่านการรับรอง คลิกที่นี่
- เลือกคลินิกที่ใช้เข็มทู่ (Blunt Cannula) ในการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงเข็มบาดเส้นเลือด
- หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดง ช้ำ เจ็บบริเวณที่ฉีดซึ่งไม่อันตราย และหายได้เองภายใน 2-3 วัน คนที่ช้ำบวมง่าย อาการจะหายภายใน 7-14 วัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด Sculptra
อาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีด Sculptra อาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง ไม่เป็นอันตราย
- รอยรูเข็มจากการฉีด ประมาณ 4-6 ชม. หรือ 1 วันจะปิดสนิท
- รอยเข็ม รอยแดงเล็กๆ ประมาณ 1-3 วันจะค่อยๆ จางลง
- อาจมีอาการปวด บวม ระบมที่ผิวและบริเวณกรอบหน้า ประมาณ 3-5 วันจะค่อยๆ ดีขึ้น
- อาจเกิดรอยเขียวช้ำได้ ประมาณ 7-14 วันจะเริ่มจางลง ถ้าเป็นคนผิวบางช้ำง่าย แนะนำให้ทายาลดรอยช้ำ และใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดได้
สรุป
Sculptra เป็นสาร Poly-L-lactic acid (PLLA) ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวดูยกกระชับ และดูเด็กขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ คงอยู่ได้นาน 25 เดือน เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย เติมเต็มร่องลึก และลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่มาตรฐาน ใช้ตัวยาแท้
Q&A เกี่ยวกับ Sculptra
Q: Sculptra กี่เดือนกลับมาฉีดซ้ำได้
A: สามารถฉีดทุก 1 เดือน ต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้จะชัดเจน และช่วยให้หน้ายกกระชับ ผิวแน่นฟู ผิวดูเปล่งปลั่งนาน 25 เดือน
Q: Sculptra แท้ ดูยังไง
A: ก่อนฉีด Sculptra ควรตรวจสอบตัวยาให้มั่นใจว่าใช้ยาแท้ วิธีการเช็กของแท้ ง่ายๆ 5 ขั้นตอน
- กล่องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สติ๊กเกอร์โมโนแกรมสีกรีนคำว่า “GALDERMA” ยังไม่ถูกดึงหรือลอกออก
- รอบกล่องมีสกรีนลายน้ำ “S” นูนขึ้นจากผิวกล่อง
- ข้างกล่องมีเลขทะเบียนอย. นำเข้าโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และมีเอกสารกำกับยาภาษาไทย
- มีเลข Lot ที่ผลิต และระบุวันหมดอายุชัดเจน แสกน QR Code ด้วยแอพลิเคชัน Eztracker เพื่อตรวจสอบข้อมูลและเลขล็อต ดูคลิปสอนใช้งานแอป คลิก!
- เช็กเลข Lot บนขวดว่าตรงกับเลข Lot ข้างกล่อง ตัวยาในขวดเป็นผงผลึกสีขาว (PLLA Powder) ไม่มีน้ำผสม
Reference
Brandt, F. S., Cazzaniga, A., Baumann, L., Fagien, S., Glazer, S., Kenkel, J. M., Lowe, N. J., Monheit, G. D., Narins, R. S., Rendon, M. I., Rohrich, R. J., & Werschler, W. P. (2011). Investigator global evaluations of efficacy of injectable poly-L-lactic acid versus human collagen in the correction of nasolabial fold wrinkles. Aesthetic surgery journal, 31(5), 521–528. https://doi.org/10.1177/1090820X11411161
Goldberg, D. Guana, A. Volk, A. & Daro-Kaftan, E. (2013). Single-arm study for the characterization of human tissue response to injectable poly-L-lactic acid. Dermatologic surgery : official publication for American Society for Dermatologic Surgery [et al.], 39(6), 915–922. https://doi.org/10.1111/dsu.12164
