อยากกำจัดไขมัน อยากมีหุ่นเพรียว หุ่นเฟิร์ม ยุคนี้มีหลายวิธีที่กำจัดไขมันส่วนเกินได้ เช่น เมโสแฟต ดูดไขมัน ตัดกระพุ้งแก้ม ตัดหนังหน้าท้อง เครื่องยกกระชับ ก่อนจะเลือกระหว่าง เมโสแฟตหรือดูดไขมัน มาดูกันว่าทั้ง เมโสแฟตและดูดไขมัน แต่ละหัตถการคืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง วันนี้คุณหมอออร่ามีคำตอบ
สรุปความแตกต่างของ เมโสแฟต กับ การดูดไขมัน
-
- การดูดไขมันเป็นการลดไขมันที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ดูดไขมัน เพราะเป็นหัตถการที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลอักเสบ ติดเชื้อ เสียเลือดมาก ก่อนดูดไขมันจะมีการกรีดผิวหนัง ทำให้มีรอยแผลเป็น หลังทำต้องพักฟื้นจนกว่าแผลจะหาย ต้องระวังไม่ให้แผลติดเชื้อ ดูแลความสะอาดเพื่อไม่ให้อักเสบเป็นหนอง การดูดไขมันบริเวณหน้ายังอาจทำให้หน้าบุ๋ม หน้าหย่อนได้เพราะ Baby Fat ใต้ผิวถูกดูดออกไปด้วย นอกจากความเสี่ยงสูง การดูดไขมันยังมีราคาแพง และไม่สามารถลดไขมันได้ถาวร
- การฉีดแฟต เป็นการลดไขมันที่เห็นผลเร็วและปลอดภัยมากกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันในเวลาจำกัด สามารถลดไขมันเฉพาะจุด เช่น เหนียง แก้ม นมน้อย ปีกหลัง เอว พุง ซึ่งเป็นบริเวณที่ลดยาก การฉีดแฟตจุดเล็กๆ ยังคุ้มค่ากว่าการดูดไขมันเพราะราคาถูกกว่า ไม่มีรอยแผลผ่าตัด ช้ำน้อย บวมน้อย หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เมโสแฟต กับ การดูดไขมัน อะไรพักฟื้นน้อยที่สุด
เมโสแฟตไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเลย หลังฉีดลูกค้าสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่การดูดไขมันใช้เวลาพักฟื้นมากกว่า ประมาณ 5-14 วัน และมีขั้นตอนการดูแลหลังทำที่ยุ่งยาก ถ้าดูดไขมันต้นขาพร้อมกัน อาจจะต้องงดเดินจนกว่าอาการบวมจะลดลง ถ้าดูดไขมันหลายจุดพร้อมกัน อาจจะต้องนอนพักฟื้นในโรงพยาบาลแทน หลังดูดไขมันต้องงดกิจกรรมบางอย่าง เช่น ทำเล็บ ไว้เล็บ ต่อเล็บ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ งดทานอาหารทะเล อาหารหมักดอง จนกว่าอาการบวมจะลดลง
เมโสแฟต กับ ดูดไขมัน ลดไขมันได้ถาวรไหม
ทั้งเมโสแฟต และ การดูดไขมัน ก็ไม่สามารถลดไขมันถาวรได้ ทั้งสองหัตถการเป็นเพียงการสลายไขมันชั่วคราว ไขมันเก่าที่เคยมี จะสลายออกได้ แต่ไม่สามารถยับยั้งการสะสมไขมันใหม่ของร่างกายได้ ถึงหลายคนจะเข้าใจว่าการดูดไขมัน ทำให้กลับมาอ้วนได้ยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าดูดไขมันหรือฉีดแฟต ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมการกิน คุมอาหาร ออกกำลังกาย ก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิมได้ง่ายๆ
เมโสแฟต คือ
แฟตคือ ตัวยาสำหรับฉีดสลายไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา นมน้อย พุง หรือจุดต่างๆที่มีไขมันสะสม เพื่อลดไขมันและสัดส่วนบริเวณที่ต้องการให้เล็กลง โดยแฟตจะช่วยกระตุ้นการทำงานของ Metabolism ซึ่งเป็นกลไกการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้การสลายไขมันเกิดได้ดีขึ้น เร็วขึ้น ไขมันที่สลายแล้วก็จะถูกขับออกจากร่างกาย ทำให้บริเวณที่ฉีด Fat สัดส่วนลดลง ดูกระชับขึ้น
รีวิว เมโสแฟต
ข้อดี-ข้อเสีย ของเมโสแฟต
Meso fat ข้อดี
- ช่วยลดไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้ดี
- ฉีดได้หลายจุดทั้งใบหน้า และต้นแขน ต้นขา พุง เอว
- เห็นผลเร็ว ลดสัดส่วนได้เร็ว
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เฉพาะแฟตที่ Aura Bangkok Clinic บวมน้อย ช้ำน้อย หายบวมและหายช้ำเร็ว
- ไม่ตกค้างในร่างกาย สามารถฉีดซ้ำได้หลายครั้ง
- ยิ่งต่อเนื่อง ยิ่งเห็นผล
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดแฟตบ่อยๆ มีอะไรบ้าง คลิกอ่านบทความที่นี่
Meso fat ข้อเสีย
- การใช้ปริมาณยาน้อยเกินไป อาจไม่เห็นผลตามต้องการ ควรฉีดตามจำนวนที่แพทย์ประเมิน
- หากไขมันสะสมเยอะ จำเป็นต้องฉีดหลายครั้งและต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- แฟตอันตรายไหม? แฟตปลอมคืออะไร ทริคลับในการเลือกแฟตให้ปลอดภัย คลิก
ดูดไขมัน คือ
การกำจัดไขมันเฉพาะส่วนโดยใช้เครื่องมือที่มีหัวเป็นท่อ สอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา การดูดไขมันนับเป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่สามารถกำจัดไขมันใต้ชั้นผิวหนังได้ทันที แต่ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับฝีมือ ประสบการณ์ของศัลยแพทย์ และเครื่องมือที่ใช้
ข้อดี ของการดูดไขมัน
- ลดไขมันทันทีหลังฉีด
- ลดไขมันปริมาณเยอะๆ ได้ดี
- สัดส่วนลดลงทันทีหลังฉีด
- ช่วยให้ซิกแพก ร่อง 11 ลายกล้ามเนื้อ ชัดขึ้นได้
ข้อเสีย ของการดูดไขมัน
- รู้สึกเจ็บระหว่างทำ และมีอาการเจ็บ ปวดบวมถึงจะทำเสร็จแล้ว
- พักฟื้นหลายวัน เฉลี่ย 5-14 วัน เพราะมีอาการบวม ช้ำ อาจมีภาวะน้ำเหลืองคั่ง
- ขั้นตอนการดูแลหลังทำยุ่งยาก หลายขั้นตอน ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก
- ถ้าไขมันเยอะ ต้องใช้ผ้าหรืออุปกรณ์รัดผิวบริเวณที่ดูดไขมัน ไม่ให้ผิวหย่อนคล้อย หนังห้อย
- เสี่ยงแผลอักเสบ ติดเชื้อ และอาจมีรอยแผลเป็น
- เสี่ยงผิวหนังเป็นคลื่น ผิวขรุขระเป็นลอน ไม่เรียบเนียน
- การดูดไขมันปริมาณมากๆ เช่น พุง ต้นแขน ต้นขา ปีกหลัง มักจะมีราคาสูง
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังทำ เช่น อาการชา แผลติดเชื้อ ลิ้มเลือดอุดตัน
- อ้างอิงจาก โรงพยาบาลรามาธิบดี การดูดไขมันไม่สามารถดูดได้ทุกจุด จุดที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก เช่น ใบหน้า ไม่ควรดูดไขมัน เพราะอาจทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาททำงานผิดปกติ
- ใช้เวลาในการดูดไขมันนาน เฉลี่ย 2-4 ชม.
- ก่อนดูดไขมัน จะต้องงดทานวิตามินและอาหารเสริม ก่อนและหลังดูดไขมันต้องงดกิจกรรมบางอย่าง เช่น ทำเล็บ ไว้เล็บ ต่อเล็บ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ งดทานอาหารทะเล อาหารหมักดอง
ไขมันเยอะ ควรทำเมโสแฟต หรือ ดูดไขมัน
ไขมันเยอะ สามารถทำได้ทั้งฉีดเมโสแฟตหรือดูดไขมัน ลูกค้าเลือกตามความต้องการได้ หรือปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำได้
- เมโสแฟตสามารถลดไขมันปริมาณเยอะๆ ได้ และยังมีข้อดีคือ ฉีดได้หลายจุด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่ต้องดูแลหลายขั้นตอน ถ้ามีไขมันเยอะแพทย์แนะนำให้ทยอยฉีดต่อเนื่อง ทุกๆ 7 วันในช่วงแรก หรือฉีดตามจำนวนครั้งและจำนวน cc ที่แพทย์แนะนำ และปับพฤติกรรมการกินอาหาร สร้างวินัยการกินและการออกกำลังกาย
- การดูดไขมัน สามารถดูดไขมันปริมาณเยอะๆ ได้ แต่ไม่เหมาะกับการดูดไขมันบริเวณใบหน้า เหนียง และถึงจะช่วยลดไขมันได้ทันที แต่ต้องพักฟื้นและดูแลหลังทำหลายอย่าง มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย ถึงจะพักจนหายดี แต่ก็อาจเจอผลข้างเคียง เช่น ผิวเป็นคลื่น ผิวขรุขระไม่สม่ำเสมอ ผิวห้อย ผิวหนังหย่อนคล้อยได้
อยากลดไขมันเร่งด่วน เลือกทำอะไรดี
ถ้าต้องการลดไขมันเร่งด่วน และยังสามารถใช้ชีวิตต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล แต่งหน้าได้ ออกกำลังกายได้ ออร่าแนะนำฉีดเมโสแฟต โดยเฉพาะแฟตที่ Aura Bangkok Clinic เป็นแฟตที่ฉีดแล้ว บวมน้อย ช้ำน้อย หายบวมและหายช้ำเร็ว ไม่ตกค้างในร่างกาย สามารถฉีดซ้ำได้หลายครั้ง และยิ่งต่อเนื่อง ยิ่งเห็นผลชัดเจน
อยากหน้าเรียว ควรทำเมโสแฟต หรือ ดูดไขมัน
ลูกค้าที่อยากหน้าเรียว V-shape สามารถฉีดเมโสแฟตแก้ม เหนียง ให้หน้าดูเรียวขึ้นได้ แฟตแก้มกับแฟตเหนียงฉีดพร้อมกัน วันเดียวกันได้ ยิ่งทำคู่กันจะช่วย ลดกระเปาะแก้ม ลดเหนียงได้ดี หน้าจะเรียวชัดขึ้น นอกจากเมโสแฟตแก้มและเหนียง การทำ โบกราม ลิฟต์กรอบหน้า ultraformer แก้มเหนียง ก็ช่วยให้หน้าเรียวได้
ออร่าไม่แนะนำให้ดูดไขมันบริเวณใบหน้า อ้างอิงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูดไขมันบริเวณใบหน้าว่า ตำแหน่งที่ไม่เหมาะกับการดูดไขมันคือใบหน้า เพราะมีเส้นประสาทจำนวนมาก และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการชา แสดงสีหน้าไม่ได้ แผลติดเชื้อ ฯลฯ
Q&A เมโสแฟตกับดูดไขมัน
Q: ฉีดแฟต อันตรายไหม?
A: การฉีดแฟตเป็นวิธีการสลายไขมันที่ปลอดภัย ไม่อันตราย เพราะเป็นการฉีด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เห็นผลเร็วและช่วยลดไขมันสะสมได้ดี เมื่อฉีดแฟตที่มีมาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง และรับบริการกับคลินิกที่ผ่านการรับรอง
Q: ฉีดแฟต (Fat) ตรงไหนได้บ้าง?
A: แฟตฉีดได้หลายบริเวณ เช่น ฉีดแก้ม ฉีดเหนียง ต้นแขน นมน้อย ต้นขา พุง เอว รอบสะดือ ปีกหลัง
Q: ฉีดเมโสแฟต เห็นผลจริงไหม ลดไขมันได้จริงไหม?
A: ฉีดแฟตลดไขมันได้จริงไหม? การฉีดแฟตจะช่วยสลายไขมันได้ สามารถสลายไขมันเก่าได้ 10-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และยิ่งเห็นผลชัดเจนเมื่อฉีดแฟตต่อเนื่อง ตามจำนวน cc และจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน
Q: เมโสแฟตที่ Aura Bangkok Clinic ราคากี่บาท?
A:
Q: ฉีดแฟตครั้งแรก ใช้กี่ cc
A: จำนวนตัวยา cc ที่ใช้ฉีด Fat แต่ละจุด ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของลูกค้าและการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแต่ละคนมีไขมันมากน้อยไม่เท่ากัน ถ้าอยากให้ไขมันและสัดส่วนลดลงมากที่สุด ควรฉีดเมโสแฟตตามจำนวนครั้ง และจำนวน cc ที่แพทย์แนะนำ
Q: หลังฉีดแฟตครั้งแรก เว้นกี่วันถึงกลับมาฉีดซ้ำได้
A: เพียง 7 วันหลังจากฉีดครั้งล่าสุด ก็สามารถฉีดซ้ำได้ ไม่เป็นอันตราย ออร่าแนะนำว่า ครบ 7 วันแล้วควรกลับมาฉีด ไม่ควรเว้นช่วงนานเพราะไขมันจะกลับมาสะสมเยอะ ทำให้สัดส่วนขยายใหญ่กว่าเดิม
Q: ฉีด fat หลายจุดพร้อมกันได้ไหม
A: แฟตสามารถฉีดหลายจุดพร้อมกันได้ ไม่อันตราย จุดที่นิยมฉีดพร้อมกัน เช่น แก้มกับเหนียง พุงกับเอว ข้อควรระวังเมื่อฉีดแฟตหลายบริเวณพร้อมกันคือ อาการปวดบวมและช้ำ แต่อาการเหล่านี้สามารถหายเองได้ใน 4-6 ชม. ถ้าปวดบวมมาก สามารถกินยาลดบวมได้
Q: ดูดไขมัน ราคาเท่าไหร่
A: ราคาเฉลี่ย โปรแกรมดูดไขมัน ในโรงพยาบาลชั้นนำ เริ่มต้น 29,000-100,000 บาท
Q: Aura Bangkok Clinic มีโปรแกรมดูดไขมันไหม
A: Aura Bangkok Clinic ไม่มีโปรแกรมดูดไขมัน แต่ที่ออร่า แบงคอก คลินิก ให้บริการฉีดแฟต ใช้แฟตคุณภาพ เข้มข้น ไม่ผสมน้ำเกลือ ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนจึงไม่ทำให้ใจสั่น และเป็นแฟตที่ฉีดแล้ว บวมน้อย ช้ำน้อย หายบวมและหายช้ำเร็ว ไม่ตกค้างในร่างกาย สามารถฉีดซ้ำได้หลายครั้ง และยิ่งต่อเนื่อง ยิ่งเห็นผลชัดเจนด้วย
Q: กลัวเข็ม ไม่อยากฉีดแฟต กลัวการดูดไขมัน ไม่อยากพักฟื้น มีวิธีลดไขมันอะไรอีกบ้าง
A: สามารถใช้เครื่องยกกระชับ เช่น Thermage ลดไขมันบริเวณแก้ม เหนียง พุง ได้ และเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่แพทย์แนะนำ เพราะไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด และยังช่วยให้ผิวดูกระชับ ลดความหย่อนคล้อยได้ดีอีกด้วย