สิว รอยสิว จุดด่างดำ เป็นปัญหาที่อยู่คู่หนุ่มๆ สาวๆ มาทุกยุค เมื่อมีปัญหา ก็มีตัวยาหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหา บางคนเลือกที่จะรักษารอยสิวกับแพทย์ผิวหนัง บางคนเลือกจะรักษารอยสิวด้วยสกินแคร์ และหลายๆ คนเลือกรักษารอยสิวด้วยหัตถการในคลินิกความงาม ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์แตกต่างกันออกไป ออร่าพาไปดูว่าในปี 2024 นี้มีเทรนด์อะไรที่เกี่ยวกับการรักษารอยสิว หรือ วิธีรักษารอยสิว ที่เห็นผลบ้าง มีหัตถการใหม่ๆ ตัวไหนที่ทำแล้วหน้าใส เหมาะกับคนอยากผิวสวย ไปดูกันเลย!
วิธีรักษารอยสิว ที่เห็นผลมากที่สุด ปี 2024
หลายๆ หัตถการยอดนิยมทำเพื่อรักษารอยสิวในปี 2024 ส่วนใหญ่เป็นหัตถการที่มีมาช่วงหนึ่งแล้ว และยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง เพราะช่วยให้รอยสิว จุดด่างดำดูจางลงได้ ออร่าพาไปเจาะข้อมูลโปรแกรมรักษารอยสิว 3 โปรแกรม จุดเด่นของโปรแกรมเหล่านี้มีีอะไรบ้าง ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกทำ
ฉีดเมโส รักษารอยสิว
เป็นการฉีดวิตามินหรือสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินเอ หรือสารอาหารอื่นๆ เข้าไปในผิวชั้นกลาง เพื่อบำรุงผิว ฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวจากภายใน เพื่อลดรอยสิวให้จางลง ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น บำรุงและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ภายใน 2-4 สัปดาห์หลังฉีด เมโสลดรอยสิวมีหลายยี่ห้อ มีทั้งยี่ห้อที่มาจากต่างประเทศ เช่น เกาหลี สเปน และยี่ห้อของแต่ละคลินิก
จุดเด่นของเมโสลดรอยสิว: ช่วยลดรอยสิว และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น บำรุงให้ผิวชุ่มชื่น มีออร่า ช่วยดีท็อกซ์ผิว ปรับสมดุลผิว ช่วยให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน เมโสลดรอยสิวส่วนใหญ่ ยิ่งฉีดต่อเนื่อง ยิ่งเห็นผลชัดเจน
ฉีดวิตามินลดรอยสิว
คือการฉีดวิตามินลดรอยสิวที่มีส่วนผสมของ Vitamin Antioxidant ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว ลดจุดด่างดำเฉพาะจุด ลดความหมองคล้ำจากแดด ปรับสีผิวให้กระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ ช่วยฟื้นฟูผิวเร่งด่วน ช่วยให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียนขึ้น โดยวิตามินลดรอยสิวสูตรที่นิยมในปี 2024 มีชื่อว่า Aura Bright เป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดรอยสิว รอยดำรอยแดงจากสิวโดยเฉพาะ ยิ่งฉีดคู่กับ MADE Collagen ที่เป็นสารสกัดเข้มข้น เอนไซม์ แร่ธาตุ ยิ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงและมีออร่าไปพร้อมกัน
จุดเด่นของวิตามินลดรอยสิว: จุดเด่นของการใช้วิตามินฉีดรอยสิว คือวิตามินไม่ทำลายผิว ไม่ทำให้ผิวบาง สามารถฉีดต่อเนื่องได้ สามารถฉีดได้ทั่วหน้าและยังใช้ฉีดเฉพาะจุดเพื่อลดรอยดำรอยแดงจากสิว ลดจุดด่างดำ รักษารอยสิว ปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ บูสต์ผิวให้กระจ่างใส
เลเซอร์ลดรอยสิว Pico Laser
Pico ลดสิว หรือ Pico Laser เป็นการยิงเลเซอร์พลังงานความถี่สูงลงไปที่ผิว เพื่อให้เม็ดสีแตกตัว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว เลเซอร์ที่มีพลังงานคงที่จะช่วยให้เซลล์เม็ดสีของรอยสิว ฝ้า กระ แตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ ช่วยให้ร่างกายกำจัดเซลล์เม็ดสีได้ดีขึ้น ทำให้รอยสิว รอยดำ ฝ้า กระบนผิวจางลง ช่วยให้รอยแตกลายจางลง ช่วยกระชับรูขุมขน สามารถใช้ลบรอยสัก ปานได้ด้วย
จุดเด่นของ Pico Laser คือ พลังงานคงที่และแม่นยำ กระตุ้นผิวได้ดี มีส่วนช่วยลดหลุมสิว รูขุมขนกระชับขึ้น แก้ปัญหาผิวที่ไม่เรียบเนียน มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอยจางๆ ได้ Pico laser เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาก มีการใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้ไปพัฒนาเป็นเครื่อง Pico อีกหลากหลายยี่ห้อ เช่น Discovery PICO, Picosure, Picoway, Enlighten III, Picoplus
คอร์สรักษารอยสิว หลุมสิว คืออะไร
คือคอร์สที่ใช้หัตถการหลายๆ หัตถการเพื่อรักษารอยสิว หลุมสิว และมักจะเป็นคอร์สระยะยาวตั้งแต่ 3-5 ครั้งขึ้นไป ตามเงื่อนไขของคลินิกแต่ละที่ คอร์สรักษาหลุมสิวมักมีราคาสูง และมักจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเมื่อทำจนจบคอร์ส
โปรแกรมรักษารอยสิวที่ Aura Bangkok Clinic
Aura Bright
วิตามินฉีดหน้าใสสูตรเข้มข้น หรือ Vitamin Antioxidant ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว บูสต์ผิวให้กระจ่างใส ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น ใช้ฉีดได้ทั่วหน้า หรือฉีดลดรอยสิวที่หลัง รักแร้ จุดด่างดำเฉพาะจุด
รวม Q&A วิตามินฉีดหน้าใส Aura Bright ต้องฉีดกี่ครั้ง? Aura Bright เหมาะกับผิวแบบไหน คลิกอ่านบทความเลย!
MADE Collagen
การฉีดวิตามิน คอลลาเจนเข้มข้น กระจาย 16 จุดทั่วใบหน้า เน้นเรื่องการดีท็อกซ์และขับสิ่งสกปรกในผิว ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส อิ่มน้ำ แต่งหน้าติดทนมากขึ้น
Intensive Skin Repair
โปรแกรมทำหน้าใสที่ใช้เครื่องยิงตัวยาลงบนผิวหน้า ตัวยาสำคัญ Active Substances 5 ชนิด คือ ฟิลเลอร์ โบกระชับรูขุมขน Stemcell Growth Factor MADE Collangen, และ Aura Bright เพื่อบำรุงผิวและฟื้นฟูผิว กระชับผิวกระชับรูขุมขน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ลดริ้วรอย ผิวหน้าเรียบเนียน ผิวหน้าอิ่มฟู ฉ่ำวาวดูสุขภาพดี ดีท็อกซ์ผิว
ตอบข้อสงสัย โปรแกรม Intensive Skin Repair ดียังไง ราคากี่บาท ทำกี่ครั้งเห็นผล อยากรู้คำตอบคลิกเลย!
ฉีดหน้าใส MADE Collagen คู่กับ Aura Bright ดีจริงไหม
การฉีด MADE Collagen ควบคู่กับ Aura Bright อย่างต่อเนื่องช่วยให้หน้ากระจ่างใส ผิวแข็งแรง และเห็นผลชัดขึ้นจริง เพราะส่วนผสมในวิตามินฉีดหน้าใสทั้งสองสูตร ช่วยเสริมการทำงานของกันและกัน คือมาเด้ช่วยขับสารพิษในผิว ช่วยปรับสมดุลผิว ช่วยลดโอกาสการอักเสบ ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ส่วนออร่าไบร์ท จะช่วยบำรุงผิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว บูสต์ผิวให้กระจ่างใสมีออร่า จำนวนครั้งที่แนะนำในการฉีดทั้ง เมโสมาเด้และออร่าไบร์ท คือ 3-5 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้เห็นผลชัดเจน
ฉีดรอยสิว ฉีดหน้าใสที่ Aura Bangkok Clinic ดียังไง
- ประเมินผิวหน้าโดยแพทย์ชำนาญการ เพื่อออกแบบการรักษาให้เข้ากับสภาพผิวของแต่ละคน
- หัตถการฉีดหน้าใสบริการโดยแพทย์ และนัดติดตามผลหลังฉีดกับแพทย์เพื่อการรักษาที่ต่อเนื่อง
- ก่อนฉีด มีบริการทายาชาฟรีทุกเคส และมีบริการประคบเย็น เพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ
- ออร่าใช้เข็มขนาดเล็กพิเศษในการฉีด จึงรู้สึกเจ็บน้อย บวมน้อย รอยเข็มน้อย
- Aura Bangkok Clinic มีวิตามินฉีดรอยสิวหลายสูตร หลายยี่ห้อที่เหมาะกับสภาพผิวแต่ละแบบ แก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุด
โปรแกรมฉีด ลดรอยสิว ราคาแพงไหม
ทำคอร์สลดรอยสิว กี่วันเห็นผล เห็นผลถาวรไหม
วิตามินลดรอยดำ เฉพาะโปรแกรม Aura Bright และ MADE Collagen จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวประมาณ 7-14 วันหลังฉีด รอยดำรอยแดงที่เคยมีจะเริ่มจางลง ยิ่งฉีดต่อเนื่อง ผิวจะแข็งแรงขึ้น กระจ่างใสขึ้น สมดุลผิวดีขึ้น
ฉีดวิตามินลดรอยสิว ผลลัพธ์อยู่ถาวรไหม? หลังรักษารอยสิวต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ รอยดำรอยแดง จุดด่างดำที่เคยมีจะดูจางลง และไม่เข็มขึ้นเท่าเดิม แต่ถ้ามีสิวขึ้นใหม่แล้วมีรอยสิวเพิ่ม แล้วมาฉีดอยู่เรื่อยๆ รอยสิว รอยดำจากสิวก็จะดูจางลงได้
ฉีดวิตามินลดรอยสิว ขั้นต่ำกี่ครั้ง
จำนวนครั้งในการฉีดลดรอยสิว ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมและผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งแพทย์จะต้องประเมินผิวก่อนแนะนำจำนวนครั้งที่เหมาะสม โดยในช่วงแรกแพทย์จะแนะนำให้ฉีด 3-5 ครั้ง แบ่งฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้งต่อเนื่องกัน 4-5 สัปดาห์ จากนั้นสามารถมาฉีดเพื่อคงสภาพผิวทุกๆ 2-4 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์แนะนำ
วิธีลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำซ้อน
รักษาความสะอาด และเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว: มลภาวะและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้นการดูแลผิวให้สะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก และการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จึงช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้ ออร่าแนะนำการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี เช่น ล้างเครื่องสำอางค์หลังแต่งหน้าออกให้หมดทุกจุด ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ดูแลสิ่งของที่ใช้กับใบหน้า เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า สำลี หมอน ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว เช่น แกะ เกาผิวหน้า พักผ่อนน้อย เครียดสะสม ฯ
รักษาความสะอาด และเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว: มลภาวะและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้นการดูแลผิวให้สะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก และการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จึงช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้ ออร่าแนะนำการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี เช่น ล้างเครื่องสำอางค์หลังแต่งหน้าออกให้หมดทุกจุด ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ดูแลสิ่งของที่ใช้กับใบหน้า เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า สำลี หมอน ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว เช่น แกะ เกาผิวหน้า พักผ่อนน้อย เครียดสะสม ฯ
รักษาสิวให้ถูกวิธี: ถ้าเป็นสิวควรรักษาสิวให้ถูกวิธี เช่น ใช้ยาแต้มสิว งดแต่งหน้าช่วงที่เป็นสิว ไม่แกะ กด เกาหัวสิว ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสใบหน้า หมั่นทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้กับใบหน้า เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า สำลี หมอน ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ ใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับผิวหน้าที่อ่อนแอมีสิว หากเป็นสิวเห่อ สิวอักเสบเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือรักษาสิวกับคลินิกที่เชื่อถือได้
บำรุงผิวให้แข็งแรง: บำรุงผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการทาครีมบำรุงที่เหมาะกับผิว ทำหัตถการเช่น ฉีดวิตามินบำรุงผิว ฉีด Mesotherapy เพื่อบำรุงผิวและเติมสารอาหารที่จำเป็นให้ผิวจากภายใน กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดหรือรังสี UV กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ฯลฯ
Q&A เรื่องสิวๆ
Q: รอยสิวมีกี่แบบ รอยสิวรักษาได้จริงไหม?
A: รอยสิวแบ่งเป็น 3 แบบใหญ่ๆ คือ
- รอยสิวแบบรอยแดง เป็นรอยที่เกิดจากสิวอักเสบ สิวอุดตัน มีลักษณะเป็นจุดแดง ชมพู ม่วง ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา จะค่อยๆ จางลงภายใน 2-4 เดือน
- รอยสิวแบบรอยดำ เป็นรอยสิ่วที่เกิดจากสิวแกะสิว บีบสิวทำให้ผิวระคายเคืองเป็นแผล ตกสะเก็ด รอยแผลมีลักษณะเป็นดวงสีดำ สีน้ำตาล สีน้ำตาลเข้ม สังเกตเห็นได้ง่าย ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา จะค่อยๆ จางลงภายใน 4-6 เดือน
- รอยสิวแบบหลุมสิว มักเกิดจากสิวอักเสบรุนแรง สิวหัวช้างที่มีการอักเสบอยู่ในชั้นลึกของผิว จนเซลล์ผิวเสียหายหรือถูกทำลาย ถึงสิวจะหายแต่ผิวจุดนั้นๆ จะฟื้นตัวได้ยาก ผิวจึงเป็นหลุม ขรุขระ ไม่เรียบเนียน หลุมสิวจะไม่หายขาดได้เองตามธรรมชาติ ต้องใช้หัตถการประเภทสารเติมเต็มผิว หรือเลเซอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
Q: เมโสลดสิวคืออะไร
A: เมโสลดสิว เป็นชื่อเรียกเมโสหน้าใสกลุ่มที่เน้นเสริมความแข็งแรงของผิว ฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอแพ้ง่าย ขับสารพิษ ลดโอกาสการอักเสบ ตัวอย่างเมโสสูตรนี้ ได้แก่ มาเด้คอลลาเจน เมโสลดสิวไม่ทำให้สิวหายถาวร แต่เป็นการบำรุงผิวให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากการอักเสบ อาการระคายเคืองได้เร็ว เมื่อผิวแข็งแรงขึ้น โอกาสการเกิดสิวจึงลดลง และถึงจะเป็นสิว ผิวก็จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นนั่นเอง
Q: เมโสหน้าใส คืออะไร
A: เมโสหน้าใส คือ การฉีดวิตามินหรือสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินเอ หรือสารอาหารอื่นๆ เข้าไปในผิวชั้นกลาง เพื่อบำรุงผิว ฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวจากภายใน เพื่อให้ผิวหน้าขาวใส ลดรอยสิวให้จางลง ภายใน 2-4 สัปดาห์หลังฉีด
Q: Rejuran รักษาหลุมสิวได้ไหม
A: หลักๆ แล้วเมื่อฉีดต่อเนื่อง รีจูรันจะช่วยฟื้นฟูผิว และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ผิวดูฟูขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยให้หลุมสิวหายไป หัตถการที่ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น คือ Intensive Skin Repair สูตร Ultimate Solution สามารถรับบริการที่ Aura Bangkok Clinic เท่านั้น
Q: Juvelook ลดหลุมสิวได้ไหม
A: juvelook ช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ในระดับหนึ่ง เพราะโมเลกุลของ HA ในจูวีลุค จะช่วยเติมผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ดูเต็มขึ้น และโมเลกุลของ PDLLA ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวฟูขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น โมเลกุลทั้งสองตัวจะเสริมการทำงานของกันและกัน นอกจากช่วยเรื่องหลุมสิว ยังช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นด้วย
Q: ฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร เห็นผลจริงไหม
A: ฟิลเลอร์หลุมสิว คือ การใช้ฟิลเลอร์หรือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA Filler) ที่เนื้อนิ่มจนถึงนิ่มมาก ฉีดเข้าไปบริเวณที่เป็นสิว เพื่อให้หลุมสิวดูเต็มตื้นขึ้น ปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้เรียบเนียนขึ้น โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว จะรักษาคู่กับการทำ Subsicion หลุมสิวหรือตัดพังผืดสิว จึงจะเห็นผลชัดเจน ผลลัพธ์เมื่อทำคู่กัน อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ชำนาญการก่อนฉีด
Q: ทำ Laser ลบรอยสิว กับฉีดเมโสหน้าใส พร้อมกันได้ไหม
A: ทำ Laser ลดรอยสิว ในวันเดียวกันกับฉีดเมโสหน้าใส ได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ก่อนทำเลเซอร์หรือฉีดเมโส ควรแจ้งประวัติการทำหัตถการกับแพทย์ทุกครั้ง เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาผิว ลดโอกาสการบาดเจ็บจากการรักษา
Q: ปล่อยให้รอยสิวหายเอง VS ฉีดลดรอยสิว แบบไหนดีกว่ากัน
A: ถ้าอยากมีผิวที่ดูใส ไร้จุดด่างดำ การใช้วิธีต่างๆ เช่น ทาเซรั่ม ฉีดวิตามินลดรอยสิวในการรักษาให้รอยสิวหาย ดีกว่าการปล่อยให้รอยสิวหายเอง เพราะร่างกายจะใช้เวลาในการกำจัดการเม็ดสีนาน 2-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับประเภทรอยสิวที่เป็น) ในระหว่างที่รอให้รอยสิวค่อยๆ จาง ก็อาจมีสิวเกิดใหม่ สะสมไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นจุดด่างดำ รอยสิวสะสม ทำให้หน้าดูหมองคล้ำได้
Q: ทำคอร์สลดรอยสิว ต้องหยุดทาสกินแคร์ไหม
A: ในช่วงที่ทำคอร์สลดรอยสิว จำเป็นต้องหยุดทาสกินแคร์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวยาที่ฉีดและชนิดสกินแคร์ที่ทา เพราะสกินแคร์บางกลุ่มมีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น ออร่าแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรก่อนทำหัตถการ