การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาที่หมองคล้ำ ริ้วรอย และร่องลึกได้อย่างรวดเร็วโดยให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูสดใสและดูเด็กลง แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วควรดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง สำหรับใครที่สงสัยว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อห้ามอะไรบ้าง สามารถแต่งหน้าได้ไหม? ออร่าได้เตรียมข้อมูลเพื่อมาคลายทุกข้อสงสัยให้คุณในบทความนี้แล้ว
7 วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์แต่งหน้าได้ไหม? ห้ามทานอะไรบ้าง? ในความเป็นจริงแล้วการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีวิธีคล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่น ๆ เพียงแต่อาจจะมีข้อห้ามที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงสัมผัสหรือขยี้รอบดวงตา เพราะจะทำให้ผิวอักเสบ ฟิลเลอร์ไหลหรือเป็นก้อนได้ ซึ่งข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีด้วยกัน ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส, นวด, เกา หรือขยี้รอบดวงตา 1-3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากตำแหน่ง
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 2-3 วันแรก เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณใต้ตาจากเครื่องสำอางและแปรงแต่งหน้า
- ทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำสะอาด เน้นใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ระคายเคืองน้อย
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดหรือทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น การออกกำลังกายหนัก การอบซาวน่า เพราะอาจกระตุ้นให้หลังฉีดฟิลเลอรใต้ตาบวมเพิ่มขึ้น
- ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำ ซึ่งช่วยส่งผลดีต่อการคงสภาพของฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำให้อยู่ได้นานขึ้น
- เลือกนอนหมอนสูงและหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อป้องกันการนอนกดทับที่ใบหน้า
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และดื่มแอลกอฮอล์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดหายบวมช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ลดอาการใต้ตาบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามกินอะไรบ้าง? หนึ่งในวิธีการดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มให้เหมาะสม เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง รวมถึงคงประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน
ทำไมต้องเลือกรับประทานอาหารหลังฉีดฟิลเลอร์?
การเลือกรับประทานอาหารหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เพราะอาหารบางชนิดอาจส่งผลให้เกิดการระคายเคือง การอักเสบ หรืออาการแพ้ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วการควบคุมอาหารหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นการหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่มีรสจัดหรือมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างมาก รวมไปถึงการเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อช่วยให้แผลหายเร็ว ลดการอักเสบบริเวณที่ฉีด
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
- อาหารรสชาติเผ็ดจัดหรือเค็มจัดที่มีปริมาณโซเดียมสูง เพราะอาจกระตุ้นให้แผลอักเสบและมีอาการบวมเพิ่มขึ้น ทำให้แผลหายช้าลงกว่าปกติ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาหารหมักดอง ไม่ผ่านการปรุงสุก เนื่องจากเป็นอาหารที่สามารถพบเจอการปนเปื้อนของเชื้อโรคหรือพยาธิสูง อาจทำให้แผลอักเสบและเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงได้
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ มีผลต่อการขยายตัวของเลือด ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้นส่งผลให้หายบวมช้าลง
จริงๆ แล้วหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถกินปิ้งย่างหรือชาบูได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการเอาหน้าเข้าไปใกล้เตาปิ้งย่าง หม้อชาบูที่อุณหภูมิสูงเป็นเวลานานๆ เพราะความร้อนที่สะสมอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วได้
อาหารที่ควรรับประทาน
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจบวมช้ำจากรอยเข็มหรือมีรอยแดงบริเวณที่ฉีด จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบและช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ดี ได้แก่
- อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่ว เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและฟื้นฟูผิว
- อาหารที่ช่วยบรรเทาอาการบวม ช้ำใน เช่น น้ำฟักทอง, ใบบัวบก, แตงกวา, พืชผักใบเขียว
- อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง, ส้ม, สตรอว์เบอร์รี่, ผักโขม, บร็อคโคลี่ เป็นต้น เพื่อช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมรอยแผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- การดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวและลดการบวม
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องงดอาหารที่ไม่ควรกินกี่วัน?
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ส่งผลต่อผลข้างเคียงต่าง ๆ จากการฉีดฟิลเลอร์ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เกิดอาการบวมช้ำ รอยแดง หรือการอักเสบ และทำควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามวิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดมีประสิทธิภาพและให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามักเป็นอาการชั่วคราวที่จะค่อย ๆ หายไปเอง แต่สำหรับบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้เช่นกัน เนื่องจากดูแลตนเองไม่ถูกวิธีหรือเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่มีโอกาสพบเจอได้มีดังนี้
- ผิวใต้ตามีรอยแดงและบวมเล็กน้อย เป็นอาการปกติที่พบเจอได้ ซึ่งรอยเข็มจะค่อย ๆ หายไปภายใน 2-3 วัน สำหรับอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน
- ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ออกจากตำแหน่ง เกิดจากการนวดหรือคลึงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิม ส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินและแก้ไข
- มีอาการแสบร้อน รู้สึกคัน และมีตุ่มหนองขึ้นบริเวณที่ฉีด เป็นอาการผิดปกติที่พบเจอได้น้อย สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดสารเหลวกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือติดเชื้อเพราะอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อมีอาการควรพบแพทย์เพื่อหาทางรักษา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม? ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด เพราะมีการใช้เทคโนโลยีการผลิต และความแน่นของเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ยังขึ้นอยู่กับวิธีดูแลตนเองหลังฉีดอีกด้วย
หากใครยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ออร่าขอแนะนำ Restylane Vital Light ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนที่มีความปลอดภัยและนิยมฉีดบริเวณใต้ตา เนื้อฟิลเลอร์นิ่มเหมือนผิวจริง กลืนไปกับผิวได้ดี ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยและร่องลึกชัดเจน ช่วยเติมเต็มผิวใต้ตาให้ดูอิ่มฟู เป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้สามารถคงสภาพได้นาน 8-10 เดือน และ Juvederm Volift อีกหนึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แนะนำใช้เพื่อฉีดใต้ตา เพราะเนื้อฟิลเลอร์คงตัวได้ดี เนื้อละเอียดกลืนกับผิวบริเวณใต้ตา คงสภาพได้นาน 8-10 เดือน เช่นกัน
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันถึงจะเห็นผล
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังทำได้ทันที โดยอาจมีอาการบวมหรือรอยแดงจากเข็มอยู่ และจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะเซ็ทตัว และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ ปัญหาริ้วรอยและร่องลึก ความหมองคล้ำใต้ตาดูจางลง ทำให้ใบหน้าดูสดใส ดูเด็กลงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาเร่งด่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือศัลยกรรมจัดเรียงไขมันใต้ตา และเหมาะกับคนที่มีเวลาพักฟื้นน้อยหรือไม่มีเวลาพักฟื้นอีกด้วย
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการเลือกเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับชั้นผิวบริเวณที่ฉีด รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม เพราะโดยทั่วไปแล้วการฉีดใต้ตาจะใช้ฟิลเลอร์ 1 cc – 2 cc แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกใต้ตามากก็อาจใช้ถึง 3-4 cc หากใช้มากกว่านี้อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้
นอกจากนี้ การให้แพทย์ที่ขาดความชำนาญ หรือหมอเถื่อน หมอกระเป๋าที่ไร้ประสบการณ์เป็นผู้ทำหัตถการอาจทำให้ฉีดผิดตำแหน่งหรือผิดวิธี ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้เช่นกัน ซึ่งหากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนสามารถแก้ไขด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
เฉพาะเคสที่มีปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนรุนแรงจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องรักษาด้วยการขูดออกเท่านั้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำหัตถการอย่างอื่นได้ไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำหัตถการอื่นได้ตามปกติ เช่น ฉีดโบ ฉีดแฟต ฉีดเมโสหน้่าใส ฉีดรีจูรัน ฯ ส่วนหัตถการประเภทเครื่องยกกระชับ เช่น Ultraformer III Thermage Ulthera สามารถทำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ แต่ควรเว้นระยะห่างหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เพื่อรอให้ฟิลเลอร์เซ็ทตัวเข้าที่ และลดโอกาสการอักเสบหรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมในการเตรียมตัวก่อนทำหัตถการประเภทอื่น ๆ
สรุป
การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์คงรูปอยู่ได้นานยิ่งขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยข้อควรระวังที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ การหลีกเลี่ยงสัมผัสบริเวณใต้ตาและการรับประทานอาหารบางชนิดที่อาจส่งผลต่อตัวฟิลเลอร์
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี การฉีดฟิลเลอร์ควรทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ สะอาด และมีแพทย์ชำนาญการเป็นผู้ทำหัตถการ Aura Bangkok Clinic คลินิกฉีดฟิลเลอร์ ลูกค้ากว่าแสนเคส บริการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเน้นความปลอดภัย ใช้ฟิลเลอร์แท้รับรองมาตรฐานอย. ไทย ใช้เข็มทู่ (Cannula) ในการฉีดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า แกะกล่องต่อหน้าก่อนฉีด พร้อมด้วยแพทย์ชำนาญการ ออกแบบการปรับรูปหน้าแบบเคสต่อเคส สนใจฉีดใต้ตา ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ออร่าสาขาใกล้บ้าน คลิก!
Reference
Cadwell, K. (2024, February 22 ). Under-Eye Filler: All You Need to Know. Vibrant Skin Bar.https://vibrantskinbar.com/blog/under-eye-filler/
Derkach, K. (2023, October 25). Under Eye/Tear Trough Filler: Everything You Need To Know. Mabrie Facial Institute. https://www.yourfaceinourhands.com/blog/under-eye-filler-everything-you-need-to-know/
All about under eye filler. (2021, January 14). Elite Medical & Aesthetics. https://www.emacolorado.com/all-about-under-eye-filler/