หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

รวมทริคดูแล หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อยากให้ฟิลเลอร์อยู่ทรงสวยนาน ต้องอ่านบทความนี้

03/10/2024

การฉีดปากนอกจากการเลือกทรงปากสวยตรงใจ เลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากกับคลินิกที่ไว้ใจและได้มาตรฐานแล้ว การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่เพิ่งไปฉีดฟิลเลอร์ปากมา หรือมีแผนกำลังจะไปทำฟิลเลอร์ปากแล้วอยากศึกษาวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก รวมไปถึงข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ปากมีอะไรบ้าง อ่านได้จากบทความนี้!

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากในแต่ละช่วงเวลา

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากควรดูแลตัวเองยังไงบ้าง เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาได้ทรงสวยตามความต้องการและคงรูปสวยนานไม่ต้องเติมบ่อย มาดูกัน

การดูแลตัวเองทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทันทีอาจมีรอยเข็ม บวม และปวดบริเวณริมฝีปากเล็กน้อย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนวดปากหลังฉีด การกด คลึง เม้มปาก หรือสัมผัสบริเวณริมฝีปากแรง ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวเสียทรง ถ้ามีอาการปวดมากสามารถกินยาแก้ปวดเพื่อลดอาการปวดได้ แล้วอาการปวดบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองประมาณ 2-3 วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมงสามารถแกะแผ่นปิดแผลออกได้ แต่ยังแนะนำให้เลี่ยงการทาลิป การจูบ ภายในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก เพราะแผลจากเข็มฉีดฟิลเลอร์อาจยังปิดไม่สนิท ทำให้เสี่ยงติดเชื้อบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปากได้

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 3-48 ชั่วโมง

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้วประมาณ 4-6 ชั่วโมง ปกติแผลจากเข็มฟิลเลอร์เกือบจะปิดสนิทแล้ว ถ้าต้องการล้างหน้าล้างปากก็สามารถทำได้ แต่ควรระวังไม่ให้ริมฝีปากสัมผัสกับน้ำนานเกินไป

ถ้ามีอาการปากบวม หรือมีอาการบวมเข็ม สามารถลดปากบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วยการประคบเย็น แต่ควรจะต้องขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อน เพราะถ้าประคบเย็นไม่ถูกวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงหรือฟิลเลอร์เป็นก้อนได้

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 3-14 วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้ว 3-14 วัน อาการปวด บวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และฟิลเลอร์ปากจะเข้าที่ภายใน 7-14 วัน ในช่วงเวลานี้แนะนำให้เลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง รวมถึงการกินอาหารร้อน ๆ สามารถจูบ เม้มปากเบาๆ และทาลิปสติกได้ตามปกติ สำหรับการออกกำลังกายสามารถทำได้ตามปกติ แต่หากกังวลเรื่องอาการฟกช้ำ แนะนำให้งดออกกำลังกายหนักไปก่อน

นอกจากนี้ควรระมัดระวังไม่ให้ริมฝีปากถูกกดทับ เช่น การเช็ดริมฝีปากอย่างรุนแรง การสูบบุหรี่ หรือการดื่มน้ำจากหลอด เพราะมีโอกาสทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงผิดรูปได้ แต่ถ้าใครมีอาการปวด บวม แดงมากขึ้นหรือไม่ดีขึ้นเลย ควรจะกลับไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อดูอาการว่ามีการติดเชื้อหรือมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ไหม พร้อมกับรับยามากินเพิ่ม

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 เดือน

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากในช่วง 1 เดือนนี้ยังคงแนะนำให้เลี่ยงการอยู่ในที่มีอากาศร้อน การกินของร้อน หรือทำกิจกรรมอะไรที่ทำให้ใต้ผิวเกิดความร้อนสะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เสียทรงและสลายตัวเร็ว นอกจากนี้ควรจะดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน เพราะฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิด ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูง การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ตัวได้ดีขึ้น และช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูอิ่มฟู คงรูปสวยนานยิ่งขึ้น

สักสีปาก หลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม

การสักสีปากกระทบกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังนั้น การสักสีปาก ก่อนหรือหลังฉีดปากมีข้อที่ควรระวังดังนี้

  • ถ้ามีการสักสีปากมาก่อน แนะนำเว้นระยะประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้อาการบวม หรือแผลระคายเคืองจากการสักสีปากหายสนิท เพื่อแพทย์จะเห็นทรงปากเดิมชัดเจน ทำให้แพทย์สามารถออกแบบทรงปากที่เข้ากับเราได้
  • การสักสีปากหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำเว้นระยะ 2-3 เดือนหลังฉีดปาก หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนสักปาก ไม่ควรไปสักสีปากทันที เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมรุนแรง ทรงปากเพี้ยน หรือเป็นแผลติดเชื้อได้

อาการที่อาจพบได้ทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากอาจพบอาการข้างเคียงได้บ้าง เช่น อาการปวด บวม รอยแดงที่เกิดจากเข็มฉีดฟิลเลอร์ และตุ่มบวมจากการแทรกตัวของฟิลเลอร์ระหว่างเนื้อปาก หรืออาจมีอาการคันเพราะแผลจากเข็มฟิลเลอร์กำลังสมานตัว ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปและสามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน

แต่หากมีรอยเขียวช้ำ อาการนี้มักจะหายได้เองภายใน 7-14 วัน ถ้าหลังจาก 14 วันแล้วพบว่าริมฝีปากมีสีซีด ขาว ม่วง แดง หรือมีตุ่มใส รอบริมฝีปาก ควรรีบกลับมาที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการทันที ถ้าปล่อยไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายอื่น ๆ ได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากห้ามกินอะไรบ้าง

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถกินอาหารได้ตามปกติ แต่จะต้องดูแลความสะอาดริมฝีปากจนกว่าแผลจากเข็มฟิลเลอร์จะหายดี เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม ควรเลี่ยงอาหารร้อนจัด อาหารแสลง เช่น ของหมัก ของดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือการกินอาหารหน้าเตาร้อนเพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวไวขึ้นได้

นอกจากนี้ เพื่อให้อาการบวม ช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ปากหายไวยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือวิตามิน อาหารเสริม ที่ส่งผลกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานมากขึ้น เพราะอาจทำให้อาการบวม ฟกช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์หายช้ากว่าปกติ ถ้ามีรอยช้ำเข้มมาก สามารถกินยาลดรอยช้ำได้

สรุป

วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

เพื่อให้ได้ทรงปากตามความต้องการและลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรจะดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ทรงริมฝีปากที่สวย อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ

Aura Bangkok Clinic ให้บริการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ทุกเคส พร้อมให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และมีนัดติดตามผลลัพธ์หลังฉีดกับแพทย์เจ้าของเคส เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะออกมาสวยตรงใจที่สุด

Reference

Didonato, J. (2024, February 27). 15 Things to Avoid After Lip Filler, According to Plastic Surgeons. BYRDIE. https://www.byrdie.com/lip-filler-aftercare-5213770

Geronemus, R. (2024, Mar 11). Lip Filler Aftercare: 8 Tips from Expert Dermatologists. Laser Skin Surgery. https://www.laserskinsurgery.com/lip-filler-aftercare-8-tips-from-expert-dermatologists/

โปรโมชั่นประจำเดือนนี้

ปรึกษาคุณหมอฟรี

บทความอื่นๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง

การมีใบหน้าที่สดใสก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ…

อ่านต่อ

ใคร ๆ ก็อยากมีปากสวยอวบอิ่ม ดูเป็นทรงสวยเข้ากับรูปหน้า …

อ่านต่อ

รอยบวมบริเวณริมฝีปากเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไปหลังฉีด…

อ่านต่อ

อยากแก้ปัญหาทรงปากคว่ำจนหน้าดูไม่สดใส ปากห้อย ปากแห้ง ป…

อ่านต่อ

ฉีดปากสายฝอ คือหนึ่งในทรงฟิลเลอร์ปากยอดฮิต ช่วยปรับรูปท…

อ่านต่อ

ปากกระจับ เทรนด์ทรงปากยอดฮิตที่อยู่มาทุกยุคทุกสมัย เหมา…

อ่านต่อ
อ่านบทความอื่น ๆ